เปิดข้อเท็จจริง คลิปสาวร่ำไห้ถูกตำรวจยึดรถ แม้อ้อนวอนจะไปหาลูกกับแม่

ที่จ.สงขลา ได้มีการโพสต์คลิปในสังคมออนไลน์ เหตุการณ์ตำรวจจราจร สภ.เมืองสงขลา จับรถหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่สวมหมวกกันน๊อคบริเวณสี่แยกวัดเลียบ ถนนไทรบุรีตัดถนนสายบุรี เขตเทศบาลนครสงขลา  ซึ่งหญิงสาวคนนี้ร้องไห้พยายามอ้อนวอนขอรถคืนอ้างว่าจะไปรับลูกกับแม่และจะไปเสียค่าปรับที่หลัง  แต่ตำรวจจราจรไม่ยอมและได้ยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถตำรวจพาไปโรงพัก จนกลายเป็นประเด็นทางสังคมออนไลน์ที่มีการวิจารณ์ถึงการทำงานของตำรวจ

เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ทั้งหญิงสาวที่ถูกจับกุมและคนที่โพสต์คลิปรวมถึงฝ่ายตำรวจ โดยไปพบกับ น.ส.พิชยา เกิดแสงสุริยงค์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของตรงบริเวณสี่แยกวัดเลียบที่เกิดเหตุ โดย น.ส.ส.พิชยา บอกว่า เหตุเกิดช่วงเที่ยวของเมื่อวานนี้ขณะที่ขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากตลาดนัดวันอาทิตย์ และถูกตำรวจจราจรขับตามหลังมาและเรียกตรวจ และถามว่ามีพรบ.หรือไม่จึงบอกไม่มีมีแต่เล่มเขียวตำรวจจึงได้ออกใบสั่งให้และยึดรถ ตนจึงขอร้องว่าอย่ายึดรถเพราะต้องการจะไปหาลูกที่ขายของอยู่ในตลาดคนเดียวและจะไปเสียค่าปรับให้ทีหลังเพราะห่วงลูกและเศรษฐกิจตอนนี้ไม่มีไม่ค่อยมีเงินด้วย แต่ตำรวจก็ไม่ยอมตนจึงได้ล๊อคคอรถและเดินร้องไห้ออกไปและไปพบกับพี่ผู้ชายคนที่ถ่ายคลิปและพยายามช่วยเหลือตน

น.ส.พิชยา บอกว่า ตอนน้ำยอมรับว่ามีอารมณ์และคำพูดของตนก็อาจทำให้ตำรวจไม่พอใจโดยเฉพาะกรณีที่ไม่ยอมให้ยึดรถและพากุญแจเดินหนี เพราะทราบจากพี่สาวว่าหากถูกตำรวจจับก็อย่าให้กุญแจและอย่าให้ยึดรถ แต่ที่พูดไปก็เพราะต้องการรถคืนเพื่อที่จะขับไปหาลูกที่ตลาดเพราะตลาดใกล้เลิกแล้ว สุดท้ายเหตุการณ์นี้ก็มีตำรวจอีกนายหนึ่งที่เป็นผู้กองก็พาคุยซึ่งคุยดีมากและเปรียบเทียบปรับให้เหลือแค่ 200 บาท จากที่มากกว่านั้นเพราะสงสาร และตำรวจก็ยกรถตนไปโรงพัก ส่วนตนเองก็นั่งรถจักรยานยนต์เพื่อนที่ขับผ่านมาไปหาลูกที่ตลาด กระทั่ง 10 โมงเช้าวันนี้ตนก็นำใบสั่งไปเสียค่าปรับและเอารถคืน

โดยตอนท้าย น.ส.พิชยา ได้ยกมือไว้ขอโทษว่าอย่าไปด่าผู้กองที่เปรียบเทียบปรับตน เพียงแต่ตอนนั้นทั้งตนและตำรวจที่จับกุมต่างอารมณ์ร้อนและตนก็ไม่เข้าใจเรื่องกฏหมายด้วย เพียงเพราะสงสารลูกที่ขายของอยู่ในตลาดคนเดียวจึงต้องการรถคืน    ด้านนาย ธนวัฒน์ ณสงขลา อายุ54 ปีเป็นหัวหน้าสาขาพรรคไทยศรีวิลัย  ซึ่งเป็นคนไลค์สดและพยายามช่วยเหลือ น.ส.พิชยา เปิดเผยว่า ตอนที่ตำรวจจับรถไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เห็นตอนที่น้องผู้หญิงคนนี้เดินร้องไห้มาและบอกว่าถูกตำรวจจับรถและยึดรถเอาไว้ ตนจึงพยายามไปช่วยเหลือขอให้ตำรวจคืนรถให้เพราะคิดว่าตำรวจทำเกินไปน่าจะผ่อนปรนไม่ต้องถึงขึ้นยึดรถ เพราะทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเคยบอกว่ากรณีแบบนี้ให้ตำรวจผ่อนปรนเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน

ในส่วนของตำรวจ พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผู้กับการสภ.เมืองสงขลา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วโดยสาเหตุที่ตำรวจต้องยึดเพราะมีความผิดหลายกระธงทั้งไม่สวมหมวกกันน๊อค ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ไม่พกสำเนาคู่มือประจำรถ ไม่มีเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี และอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ  แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าตอนนั้นผู้เสียหายอาจจะมีอารมณ์ร้อนและไม่พอใจที่ถูกตำรวจยึดรถ ทำให้กลายเป็นเรื่องขึ้นมา ส่วนตำรวจที่จับกุมก็จะสอบถามเหตุการณ์ครั้งเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสงขลา