นักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอกผามออีแดง
ประชาชน นักท่องเที่ยวนับพัน แห่เดินทางขึ้นไปชมความงามบนหน้าผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร บ้านภูมิชรอล อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เช้านี้มีเมฆหมอกสายงามสมใจ ตื่นตาตื่นใจทุกคนเป็นอันมาก
วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ที่ สำนักงานอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดให้นักท่องเที่ยว พี่น้องประชาชน ได้เดินทางขึ้นไปชมความงามบนหน้าผามออีแดง ที่สามารถมองเห็นทะเลป่า ภูผาหมอก ชมความงามของท้องฟ้า และตะวันขึ้นก่อนใครใน 3 แผ่นดิน คือ ลาว เขมร และไทย โดยในช่วงหน้าฝนนี้ หากคืนใดที่มีฝนตกลงมา ในช่วงเช้ามืด จนสายตะวันขึ้น จะมีละอองหมอกจากป่าที่อยู่ด้านล่างของหน้าผามออีแดง ลอยขึ้นมาบนพื้นที่ป่า และมาลอยเกาะกลุ่มใหญ่อยู่เหนือทะเลป่า ล้อมรอบภูเขาสะตาโสม ที่อยู่ด้านหน้าของประเทศไทย ทำให้ดูสวยงามเป็นอันมาก เหมือนได้อยู่บนทิพย์พิมาน บนสรวงสวรรค์ เหมืออยู่ต่างประเทศ ประกอบกับการสัมผัสอากาศที่เย็นพอดี ทำให้เป็นที่นิยมของผู้คนมากมายในช่วงนี้ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ที่มีวันหยุดติดต่อกันในช่วงนี้ จะเดินทางมารอรับตะวันขึ้นก่อนใครใน 3 แผ่นดิน ชมความงามของเมฆหมอกบนหน้าผามออีแดง ชมทะเลป่า ภูผาหมอกกันช่วงเช้า ที่สามารถพาผู้สูงอายุมาเที่ยวได้ เพราะจากที่ลานจอดรถ สามารถเดินบนทางลานปกติเพียง 30 เมตรก็ถึงหน้าผามออีแดง แล้ว
ซึ่งในเช้าของวันนี้ ที่นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาด้วยทั้งด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ แห่มาเข้าคิวซื้อบัตรจากเจ้าหน้าที่อุมยานแห่งชาติ เพียงคนละ 20.-บาท ก็สามารถเดินทางขับรถผ่านขึ้นไปจอดรถยังลานจอดรถทุกชนิด ได้อย่างสะดวกสบาย จากนั้นก็เดินเท้าเพียง 30 เมตร ก็ถึงด้านหน้าผามออีแดง รอชมความงามของตะวันขึ้นก่อนใน 3 แผ่นดิน และวันนี้คนก็ได้รับความตื่นตาตื่นใจ กับเมฆหมอกที่สวยงาม อยู่เบื้องหน้าของทุกคน ต่างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปความงามส่งต่อไปให้เพื่อนๆ ที่ไม่ได้มาชมได้รับชมเห็นภาพความงามของเมฆหมอกที่อยู่ด้านหน้า และเพียงแค่อึดใจเดียว แสงตะวันก็เริ่มส่องผ่านเมฆหมอกขึ้นมาจากยอดเขาสะตาโสม สวยงามมากๆ ประชาชน นักท่องเที่ยว ตื่นตากันมาก บนเมฆหมอกมีแสงจากดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนตัวช้าๆ ขึ้นมาเหนือเมฆ ด้านล่างเป็นเมฆหมอกสีขาวปุยสวยงามสุดจริงๆ ประชาชน นักท่องเที่ยว รอจนพระอาทิตย์ขึ้นพ้นเมฆหมอก และสาดแสงเริ่มร้อนนิดๆ ก็พากันเดินขึ้นไปถ่ายรูปยังเสาธงชาติไทย ที่นำลงมาจากปราสาทเขาพระวิหาร เป็นเสาธงแห่งประวัติศาสตร์ที่ทหารไทย ยกมาทั้งเสา โดยไม่ได้ปลดธงออกจากเสานี้ โดยการแบกลงมาทั้งเสา เพื่อมาตั้งบนพื้นแผ่นดินไทย เมื่อครั้งที่ไทยแพ้ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และจากนั้นก็แวะไปชมความงามของภาพแกะสลักนูนต่ำ ของพระพุทธรูป 3 พระองค์ ที่มีอายุกว่าพันปี เดินเที่ยวชมบรรยากาศบนผามออีแดง ก่อนจะเดินทางกลับในช่วงสายๆ เพื่อท่องเที่ยวในวันหยุดต่อไป
ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.ศรีสะเกษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง