สองสหายเคยทำสัญญาใจกันเมื่อ 28 ปีก่อนว่าถ้าใครถูกลอตเตอรี่รางวัลแจ็คพอตจะแบ่งกันครึ่งหนึ่ง แล้วเขาก็ทำจริงๆ
เมื่อครั้ง โทมัส คุก กับ โจเซฟ ฟีนีย์ จับมือสัญญากันในปี 2535ว่า หากใครคนใดคนหนึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ไม่ว่าใครจะเป็นคนซื้อ จะแบ่งรางวัลกันครึ่งหนึ่ง ..28 ปีผ่านไป ทั้งสองไม่คิดว่ารางวัลที่ได้จะหมายถึงเงินรางวัลหลายล้านดอลลาร์ เมื่อคุก ตรวจลอตเตอรีพาวเวอร์วอล งวดวันที่ 10 มิ.ย. พบว่าตนเองถูกรางวัลแจ็คพอต 22 ล้านดอลลาร์ ( 692 ล้านบาท) เขาไม่มีความลังเลเลยที่จะทำตามสัญญา สองสหายพร้อมครอบครัวไปรับรางวัลแจ็คพอตพาวเวอร์บอล ที่สำนักงานสลากวิสคอนซินเมื่อวานตามเวลาท้องถิ่น ( 23 ก.ค.)
ในคลิปการให้สัมภาษณ์ของทั้งคู่ โทมัส คุก กล่าวง่ายๆว่า สัญญาต้องเป็นสัญญา ขณะที่ฟีนีย์ กล่าวว่า สัญญานี้เก่ามากจนจำปีไม่ได้ชัดเจน แต่ทั้งสองตกลงกันว่าไม่ว่าใครถูกรางวัล เราจะแบ่งกัน จึงซื้อสลากกันทุกสัปดาห์ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ
โอกาสถูกแจ็คพอตพาวเวอร์บอลนั้นน้อยมาก ปัจจุบัน ความเป็นไปได้อยู่ที่1 ต่อ 292,201,338 ตอนที่ คุก โทรศัพท์บอกเพื่อนว่าจะเป็นเศรษฐีแล้วนะ ฟีนีย์ ไม่อยากเชื่อ ก่อนพูดว่า นายจะบ้าเหรอ
คุก กับ ฟีนีย์ รับเงินรางวัลเป็นเงินสดหลังหักภาษี 16.7 ล้านดอลลาร์ แบ่งคนละ 5.7 ล้านดอลลาร์ ( 180 ล้านบาท ) ทั้งสองไม่ได้เผยว่ามีแผนการนำเงินหลายล้านนี้ไปใช้ทำอะไร ฟีนีย์เกษียณจากงานดับเพลิงแล้ว ส่วนคุกลาออกจากงาน และมีแผนจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและลูกหลาน ท่องเที่ยวแบบไร้ความเครียดใดๆ และจะยังซื้อสลากพาวเวอร์บอลต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง