น้อง"ออเก้า" สาวสองดีกรีมิสทรานสตาร์ไทยแลนด์ ร้อง สคบ. รพ.ดังย่านสาธุประดิษฐ์ ผ่าตัดแปลงเพศแล้วใช้งานไม่ได้

23 ก.ค.63 ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น้องออเก้า (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็น สาวประเภทสอง ทำศัลยกรรมแปลงเพศ แต่กลับใช้งานไม่ได้ แผลที่ผ่าตัดมาก็มีกลิ่น และน้ำเหลืองไหลจนเกือบเน่า เดินทางมายื่นเรื่องถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ช่วยดำเนินการไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย

ด้าน "น้องออเก้า"  สาวประเภทสอง ที่มีดีกรีระดับนางงามเวทีมิสทรานสตาร์ไทยแลนด์ เดินทางยื่นเรื่องร้องเรียน พล.ต.ต.ประสิทธิ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีพ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์  ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง เป็นผู้รับเรื่อง

โดย น้องออเก้า เปิดเผยว่า ตนเองเป็นสาวประเถทสองที่มีความฝันอยากเป็นผู้หญิงจริงๆ จึงทำงานเก็บเงินจนพอที่จะสามารถแปลงเพศได้ จึงไปติดต่อโรงพยาบาลตกแต่งศัลยกรรมแห่งหนึ่ง ย่านสาธุประดิษฐ์ เนื่องจากดูจากเพจมีความน่าเชื่อถือ และมีการโฆษณาว่าสามารถทำออกมาได้สวย และลึกมากกว่า 6 นิ้ว ถึงแม่ว่าราคาจะแพงความที่อื่น ตนก็ยังเลือกที่จะทำที่โรงพยาบาลแห่งนี้เพราะเชื่อว่าราคาแพงต้องออกมาดีอย่างแน่นอน โดยก่อนทำก็มีการตรวจร่างกายตามปกติ มีการชำระค่าบริการประมาณ 160,000บาท ซึ่งตามจริงราคาโปรโมชั่นคือ 170,000 บาท แต่ทางโรงพยาบาลมีส่วนลดให้

หลังเข้าแปลงเพศตนได้พักฟื้นประมาณ 5 เดือน ตลอดการพักฟื้น ตนมีการเข้าพบแพทย์อยู่ตลอด ซึ่งหลังจากที่ผ่าตัดสาวประเภทสองทุกคนจะรู้ว่าต้องหมั่นดูให้ดี ต้องมีการไดเร็ค หรือที่รู้จักกันในชื่อแยงโม เพื่อไม่ให้อวัยวะเพศที่แปลงมามันตื้นขึ้น ซึ่งหลังจากที่ทำการแยงโมครั้งแรกก็พบว่าสามารถไดเร็คได้แค่3นิ้ว เท่านั้น จึงไปปรึกษาแพทย์ที่ทำ ก็ได้รับคำตอบว่าต้องหมั่นไดเร็คไปเรื่อยๆมันจะดีเอง แต่ตอนนี้ผ่านมา 1 ปี 3 เดือน อวัยวะเพศที่แปลงมากลับมีความลึกเท่าเดิม และสภาพออกมาไม่ได้สวยงามตามที่ได้โฆษณาไว้ ตอนนี้มันน่ากลัวมาก ได้ติดต่อทางแพทย์ไปอีกหลายครั้งแต่ก็ได้รับคำตอบว่าถ้าจะแก้ไขต้องผ่าตัดต่อลำไส้ และต้องเสียเงินเพิ่มอีก 190,000 บาท ซึ่งตนมองว่าในเมื่อตนเสียเงินราคาแพงในการแปลงเพศ ทำไม่ตนต้องมาเสียเงินในการแก้ไข จึงตัดสินใจเข้าร้องทนายรณรงค์ เพื่อให้ช่วยเหลือ ตอนนี้ตนไม่ต้องการให้โรงพยาบาลมารับผิดชอบแก้ไขอะไรแล้ว แต่อยากได้เงินที่เสียคืน เพราะต่อให้โรงพยาบาลมารับผิดชอบผ่าตัดแก้ไขให้ตนก็ไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะความมั่นใจที่มีต่อโรงพยาบาลมันเหลือศูนย์ไปแล้ว

นอกจากนี้ตนยังได้รับผลกระทบในด้านอื่นๆ ก่อนหน้านี้มีแฟนอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตกิจกรรมทุกอย่างราบรื่น แต่หลังจากไปแปลงเพศ มันทำให้เราห่างมากขึ้น ไม่สามารถทำกิจกรรมได้เหมือนเดิม งานการก็ไม่ได้ทำ แต่ที่สำคัญคือสภาพจิตใจของตนตอนนี้มันไม่เหลือความมั่นใจเลย มันแย่มากๆ จนครั้งหนึ่งเคยตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ทางแม่และครอบครัวคอยให้กำลังใจจึงผ่านจึงจุดนั้นมาได้ การที่สาวประเภทสองคนหนึ่งต้องการเป็นผู้หญิงจริง แต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้มันทำให้เราเสียใจมากจริง 

พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์  ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง  กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องจะนำเอกสารไปตรวจสอบว่าเรื่องร้องเรียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และมีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้อง ถ้าหากเป็นการโฆษณาเกินจริงจะส่งเรื่องไปยังกองโฆษณา เพื่อเรียกสถานพยาบาลดังกล่าวเข้ามาชี้แจ้ง และสอบปากคำ นอกจากนี้ถ้าพบความผิดชัดเจนจะเรียกทั้งสองมาพูดคุยและไกล่เกลี่ยชดเชยค่าเสียหาย และหลังจากนี้จะตรวจสอบลึกลงไปอีกว่าได้มีการขออนุญาตตั้งสถานพยาบาลอย่างถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องจะส่งเรื่องไปยังกรมสนับสนุนทางการแพทย์ ส่วนแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดถ้าพบความผิดจะแจ้งให้แพทย์สภาตรวจสอบต่อไป

ทนายรณรงค์ กล่าวว่า นอกจากน้องออเก้า แล้วยังมีผู้เสียหายที่รับการบริการประเภทผ่าตัดแบบกรณีของน้องออเก้าอีก 3 ราย  มีปัญหาหลังผ่าตัด ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งความเอาผิดสถานประกอบการแห่งนี้ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. และ ร้องเรียนด้านสาธารณสุขต่อ สบส. ต่อไปด้วย