ข่าว

ผอ.ศิริราช แถลงผลตรวจแล็บที่ 4 เคสหญิงไทยปอดอักเสบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รศ.นพ.วิศิษฐ์ วามวาณิชย์ ผอ.โรงพยาบาลศิริราช แถลงผลตรวจแล็บที่ 4 เคสหญิงไทยปอดอักเสบ อายุ 31 ปี ซึ่งถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลย่านราษฎร์บูรณะ

รศ.นพ.วิศิษฐ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช แถลงผลการตรวจผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 31 ปี ที่มีอาการปอดอักเสบ ซึ่งถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช โดยได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลย่านราษฎร์บูรณะ ด้วยเหตุสงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

อ่านข่าว : สธ.เผยผลตรวจ 3 แล็บ เคสหญิงไทยต้องสงสัยโควิดส่งต่อ รพ.ศิริราช

 

ผู้ป่วยหญิงรายนี้เข้ารักษาตัวด้วยอาการบวมตามแขน ขา และมีโรคประจำตัวอีกหลายโรคที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านราษฎร์บูรณะเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา จากนั้น วันที่ 7 ก.ค.2563 พบว่า ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมากขึ้นและเริ่มมีภาวะปอดอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งตามหลักการแพทย์ให้สันนิษฐานว่าเข้าข่ายอาการป่วยด้วยเชื้อโควิด-19 ทางโรงพยาบาลจึงต้องมีการตรวจหาเชื้อ

 

ทางโรงพยาบาลศิริราช ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยส่งตัวอย่างไปยังแล็บแรก พบว่ามีเชื้อ จึงทำการตรวจซ้ำ ซึ่งผลตรวจซ้ำไม่พบเชื้อ ขณะเดียวกันส่งผลไปให้แล็บที่ 2 และ 3 ที่สถาบันบำราศนราดูร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบควบคู่กันด้วยซึ่งผลการตรวจอย่างละเอียดยืนยันไม่พบเชื้อโควิด-19 เช่นกัน

 

รศ.นพ.วิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า ได้มีการประสานมาตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมาแล้ว แต่เนื่องจากอาการผู้ป่วยยังมีอาการยังไม่คงที่ ก่อนที่จะตัดสินใจส่งต่อผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลศิริราชเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ค. ทางโรงพยาบาลศิริราช จึงทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างละเอียดอีกครั้งกับแล็บของโรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจออกเมื่อเวลา 21.00 น. ว่าไม่พบเชื้อโควิดเช่นกัน 

 

" ขอให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้ป่วยด้วยอาการติดเชื้อโควิด-19 แต่สาเหตุของโรคปอดอักเสบมาจากเชื้อใดอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ เนื่องจากผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำมาก แต่ขณะนี้ยืนยันได้ว่าไม่ได้เกิดจากเชื้อโควิด-19"

 

อย่างไรก็ตาม อาการของผู้ป่วยคงที่แล้ว ขณะนี้ได้รักษาไปตามอาการของโรคปอดอักเสบ ซึ่งแพทย์เจ้าของไข้ ระบุว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการย้ายผู้ป่วยจากหอผู้ป่วยความดันลบ ไปรักษาตัวต่อที่หอผู้ป่วยไอซียูต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ