มือดีย่องเบากลางดึก ขโมยถังแก๊สร้านอาหารตามสั่ง เจ้าของเครียดขาดเครื่องมือหากิน

วันที่ 11 กรกฎาคม 2563 เวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้ง มีเหตุลักทรัพย์ที่ร้านค้าอาหารตามสั่ง หมู่ที่ 5 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ร.ต.อ.สมพงษ์ ศรีนครินทร์ พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า ร้านค้าดังกล่าวเป็นร้านอาหารตามสั่งชื่อร้าน “กุ๊กเก๋” ตั้งอยู่ริมถนนหนองนารี - ป่าเลา หมู่ที่ 5 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ มี นางเนตรนภา พยัคฆา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ เป็นเจ้าของ เล่าว่า ตนเปิดร้านอาหารตามสั่งตั้งแต่เวลา 07.00 – 20.00 น. เมื่อคืนหลังจากที่ตนปิดร้านเข้านอนต่อมาประมาณประมาณเที่ยงคืนได้ยินเสียงดังนอกบ้านคล้ายเสียงสิ่งของกระทบกัน ตนจึงคิดว่าเป็นเสียงลม เพราะมีลมพัดแรงมาก แฟนจึงลุกออกมาดู แต่ไปดูแค่หลังบ้าน จากนั้นก็มาเข้านอนต่อ กระทั่งรุ่งเช้าหลังจากกลับจากตลาดและกำลังจะเตรียมอุปกรณ์สำหรับขายอาหาร ก็พบว่าถังบรรจุแก๊สขนาด 15 กิโลกรัม ได้หายไปจำนวน 2 ถัง จึงได้สำรวจบริเวณรอบ ๆ บ้าน ก็พบว่า ป้ายที่วางพิงไว้กับผนังบ้านได้ล้มลงมา รวมทั้งถังน้ำเข็งสีเขียวที่วางอยู่ข้างบ้านก็ถูกเลื่อนมาอยู่ตรงวางถังแก๊ส ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะใช้ยืนเพื่อขโมยถังแก๊สได้อย่างสะดวก จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นางเนตรนภา พยัคฆา กล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านั้นร้านค้าก็ถูกขโมยเข้ามาแล้วหลายครั้ง โดยได้ขโมยไข่ ปลากระป๋อง น้ำอัดลม ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร เนื่องจากคิดว่าคนที่มาขโมยอาจจะหิว และอาจจะเนื่องมาจากพิษโควิดทำให้คนไม่มีเงินซื้อกับข้าว และข้าวของที่หายก็มีมูลค่าไม่มาก จึงไม่ได้แจ้งความ แต่ครั้งนี้ถังแก๊สทั้ง 2 ถัง รวมแล้วมูลค่าเกือบ 5 พันบาท และหากไม่แจ้งความดำเนินคดี คาดว่าคนร้ายอาจจะย่องเข้ามาขโมยทรัพย์สินต่าง ๆ อีกอย่างแน่นอน

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบว่า มีรอยเท้าซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ก่อเหตุ รวมทั้งบนถังน้ำแข็งสีเขียว ซึ่งก็คาดว่าผู้ก่อเหตุใช้เหยียบเพื่อขโมยถังแก๊สได้ถนัด แต่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง รวมทั้งตามแยกต่าง ๆ เพื่อหาตัวหัวขโมยรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่างภูมิภาค จังหวัดเพชรบูรณ์