สองนางแบบสุดทน แจ้งจับช่างภาพหื่นลวนลาม เหยื่อโผล่อีกครึ่งร้อย

 

วันนี้ 9 ก.ค. 2563 ที่สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม นางแบบสาว 2 คน นำเอกสารหลักฐานรูปภาพและข้อความแชทที่กลุ่มผู้เสียหายบอกเล่าพฤติกรรมของช่างภาพชื่อดังรายหนึ่งที่มีพฤติกรรมพยายามลวนลามผู้เสียหายขณะถ่ายแบบแนวเซ็กซี่ เข้าแจ้งความกับพันตำรวจเอกธีระ เถระพัฒน์ ผู้กำกับการ สน.ท่าข้าม เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับช่างภาพคนดังกล่าว

 

นางแบบสาวทั้ง 2 คน เล่าว่า ช่างภาพคนนี้ใช้ชื่อว่า "โอม" เป็นช่างภาพที่มีโปรไฟล์ดีในวงการถ่ายแบบแนวเซ็กซี่ และเคยได้รับรางวัลเพลย์บอยมาแล้ว ทำให้เป็นที่รู้จักในวงการ และผู้เสียหายทั้งสองคนจึงยอมมาถ่ายแบบให้กับช่างภาพคนดังกล่าว เพื่อนำรูปไปทำพอร์ตสำหรับรับงานถ่ายแบบ โดยนัดกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อไปถึงที่โรงแรมช่างภาพคนดังกล่าวกลับใช้อุบายจับแยกผู้เสียหายทั้งคู่ถ่ายคนละห้องกัน โดยให้เพื่อช่างภาพอีก 1 คนมาช่วยถ่ายภาพ

 

ระหว่างนั้นช่างภาพโอมก็ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างถ่ายทำ และฉวยโอกาสขณะอยู่ในห้องสองต่อสอง จัดแต่งชุดถ่ายแบบซึ่งเป็นเสื้อกล้ามและบิกินี่ให้อยู่ในลักษณะเจตนาให้อนาจารโป๊เปลือยเห็นของสงวน และอาศัยจังหวะลวนลามถูกเนื้อต้องตัวนางแบบ จนการโต้เถียงกันเพราะผิดเงื่อนไขการถ่ายแบบที่ตกลงกันว่าจะถ่ายแนวเซ็กซี่เท่านั้น ไม่ใช่โป๊เปลือย และตามปกติช่างภาพจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวนางแบบโดยไม่ขออนุญาตก่อน ผู้เสียหายทั้ง 2 คน จึงได้ขอยกเลิกการถ่ายแบบ

 

 

 

หลังจากนั้นผู้เสียหายทั้ง 2 คนได้ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา สอบถามนางแบบรายอื่นก็พบว่าช่างภาพคนนี้จะเปิดโรมแรมที่นี่เป็นประจำ และมีผู้เสียหายกว่า 50 คนที่ถูกกระทำลักษณะเดียวกัน คือเน้นพยายามถ่ายให้เห็นอวัยวะเพศอย่างเด่นชัด บางรายถูกกระทำถึงขั้นโดนราดนมที่บริเวณหน้าอก แล้วช่างภาพคนดังกล่าวก็ก้มลงเลีย

 

 

นอกจากนี้ช่างภาพคนนี้ยังให้นางแบบถ่ายรูปขณะชูกระดาษที่เขียนรหัสบางอย่าง อ้างว่าเป็นรหัสเกมมือถือ แต่ส่วนตัวผู้เสียหายเชื่อว่าช่างภาพอาจจะนำรูปภาพไปขาย ซึ่งมีผู้เสียหายรายหนึ่งเคยเห็นภาพตนเองปรากฎในเว็บโป๊ หรือเว็บพนันใต้ดินต่างประเทศ แต่ไม่กล้าแจ้งความเพราะรู้สึกอับอาย

 

 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งสองคน และอยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อหากับช่างภาพคนดังกล่าวในความผิดฐานกระทำอนาจาร ส่วนความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะเข้าข่ายด้วยหรือไม่ พร้อมกับออกหมายเรียกให้ผู้ก่อเหตุมารับข้อกล่าวหาและสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป