
4ยายหลาน โดนพลุตกใส่บาดเจ็บสาหัส รักษาตัวจนเงินหมด หันมาขายขนมออนไลน์ก็โดนโกง ลำบากสุดๆ
4 ยายหลาน ต้องพิการเพราะเหตุพลุระเบิดใส่ ตามร่างกายมีแต่แผลเป็น ต้องรักษาต่อเนื่อง ขณะที่เด็กเสียโอกาสด้านการศึกษาหยุดเรียนมา 2 ปีแล้ว ต้องอาศัยอยู่บ้านเช่า อ.เมือง จ.ราชบุรี วอนผู้ใจบุญช่วยค่ารักษาเดินทางไปผ่าตัด
( 27 มิ.ย. 2563 ) นี่เป็นอีกครอบครัวหนึ่ง ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการจุดพลุในงานพิธี เหตุเพราะจุดพลุขึ้นไปแล้วไม่ระเบิด แต่กลับตกลงมาระเบิดด้านล่างโดนคนจนบาดเจ็บและพิการ เพราะการขาดความระมัดระวัง อย่างครอบครัวของ นางกรวรรณ เจริญสุข อายุ 56 ปี ผู้เป็นยาย น้องเนย อายุ 11 ปี น้องเนส อายุ 7 ปี ทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน และยังมีหลานอีกคน ชื่อ น้องออมสิน อายุ 6 ปี บาดเจ็บที่มือขวาและบริเวณขา เป็นลูกของนางสาวจันทิมา เจริญสุข ได้ถูกพลุระเบิดใส่ตามร่างกายได้รับบาดเจ็บจนพิการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2561 หรือเมื่อ 2 ปีก่อน สภาพมีบาดแผลพุพองจนแห้งยึดติดหนัง นิ้วมือ นิ้วเท้าติดกัน บริเวณแขนและขามีร่องรอยของการรักษาและผ่าตัดมาแล้วหลายครั้ง แต่ร่างกายยังไม่ปกติ
สาเหตุเนื่องด้วย นางกรวรรณ เจริญสุข อายุ 56 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นยาย อยู่บ้านเลขที่ 515 / 7 หมู่ 3 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้พาลูกและหลานไปร่วมงานประจำปีศาลเจ้าแห่งหนึ่งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร และมีการจุดพลุเฉลิมฉลองในพิธี แต่ขณะจุดพลุขึ้นไปพลุไม่ระเบิด แต่กลับตกลงมาระเบิดด้านล่าง ตรงที่นางกรวรรณ เจริญสุข และลูกหลานที่ยืนอยู่ ทำให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งงาน หลังสิ้นเสียงพลุ พบตามร่างกายของคนทั้ง 4 ถูกไฟไหม้พุพองได้รับบาดเจ็บ เหลือเพียงนางชลิดา และนางกุสินี ซึ่งเป็นลูกสาว 2 คน ที่ยืนอยู่ด้วยไม่ได้รับบาดเจ็บ พอเหตุสงบลงชาวบ้านได้รีบนำหลาน ๆ และตัวของนางกรวรรณ ผู้เป็นยาย ส่งโรงพยาบาลทันที จนมีการรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่เนื่องจากอาการของแต่ละคนค่อนข้างสาหัส ทำให้ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวไปรักษาและผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราชมาแล้วหลายครั้ง และต้องนอนพักรักษาตัวหลายวัน ทำให้ครอบครัวประสบปัญหาเรื่องค่าเดินทางแต่ละครั้งที่ต้องใช้จ่ายเงินนับหมื่นบาท อีกทั้งขณะนี้แพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราชนัดผ่าตัดหลานอีก แต่ก็ไม่มีเงินค่าเดินทางไปที่กรุงเทพฯ ลำบากทั้งความเป็นอยู่
ขณะที่หลานก็ต้องหยุดไม่ได้เรียนหนังสือมา 2 ปีแล้ว และหวังที่อยากจะกลับมาเรียนใหม่เหมือนกับคนอื่น ๆ อย่าง น้องเนย อายุ 11 ปี เคยเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองราชบุรี อยู่ชั้น ป. 3 จะขึ้น ป. 4 ก็ต้องหยุดเรียนไป และได้รับบาดเจ็บบริเวณขาทั้งสองข้าง โดยเฉพาะขาข้างซ้ายจะมีนิ้วเท้าติดกัน ยืนนานไม่ค่อยได้จึงต้องหยุดเรียนมา 2 ปีแล้ว ส่วนน้องเนสบาดเจ็บบริเวณขาทั้งสองข้าง หมอผ่าตัดรักษาช่วงข้างหัวเข่าแต่ก็มีบาดแผลปูดขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ และหยุดเรียนไป 1 ปี ต่อมาปีนี้น้องเนสเริ่มอาการดีขึ้น ทางครอบครัวจะให้เรียนหนังสือในชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่โรงเรียนวัดโชติทายการาม อ.ดำเนินสะดวก ที่กำลังจะเปิดภาคเรียนใหม่นี้
นางกรวรรณ เจริญสุข ผู้เป็นยาย เปิดเผยว่า ตอนนี้ลำบากมากมีเงินไม่พอใช้จ่าย ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ สงสารหลานอยากให้ไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช เพราะแพทย์ที่โรงพยาบาลนัดผ่าตัดมาแล้วเป็นปีแต่ไม่มีเงินค่าเดินทางพาหลานไปรักษาต่อเนื่อง หลานบ่นอยากเรียนหนังสือเหมือนเพื่อนคนอื่น แต่มีปัญหาเรื่องเงินค่าเทอมเรียนจึงต้องหยุดการเรียนมาแล้ว 2 ปี จึงหาขนมใส่กระปุกขายผ่านออนไลน์ช่วยทางบ้านอีกทาง แต่ด้วยสภาพร่างกายก็ยังลำบากยืนตรง ๆ ไม่ได้มากนัก สำหรับค่าผ่าตัดรักษาจะใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท แต่จะมีปัญหาเรื่องค่าเดินทาง ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร อีกทั้งหลานมีอายุเกินกำหนดไม่สามารถอยู่เฝ้าที่ห้องคนไข้ได้อีกแล้ว จำเป็นต้องจ่ายค่าห้องพัก การเดินทางพาหลานไปแต่ละครั้งใช้เวลาหลายวัน อย่างคราวที่ผ่าตัดครั้งที่แล้วใช้เวลานานเกือบ 10 วัน แพทย์ใช้ผิวหนังของน้องเนยที่บริเวณโคนขาไปแล้ว ไม่รู้คราวหน้าจะใช้หนังเทียมหรือไม่ในการผ่าตัด หากใช้หนังเทียมจะมีราคาแพงมาก และทางครอบครัวต้องออกค่ารักษาและยังมีค่ายานอกรายการก็จะต้องจ่ายเงินเอง โดยช่วงที่เกิดเรื่องอุบัติเหตุได้มีการฟ้องร้องศาล และศาลสั่งให้คู่กรณีชดใช้ได้เงินค่ารักษามาคนละ 50,000 บาท แต่ก็ยังไม่พอกับการรักษาตัวเพราะคู่กรณีก็ลำบากไม่มีเงิน ด้านนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หลังทราบเรื่องจึงได้เดินทางมาเยี่ยม พร้อมให้การช่วยเหลือเบื้องต้น มอบสิ่งของเป็นอาหารแห้ง ข้าวสาร และเงินสดจำนวนหนึ่ง
นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้เด็กรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งทางสังคม เบื้องต้นจะประสานหน่วยงานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาดูว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง และน้องเนยเคยเรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองราชบุรี และยังมีค่าเทอมที่ค้างชำระอยู่ จะลองไปพูดคุยกับทางโรงเรียนว่าขอให้ยกยอดค่าเทอมนั้นให้ได้มั๊ย และจะหาที่เรียนให้ใหม่ในเขตเทศบาลเมือง เพราะน้องอยากเรียนหนังสือต่อ และน้องเนยเป็นเด็กดี ยังอยากช่วยเหลือทางบ้านด้วยการสั่งซื้อขนมทางออนไลน์มาขาย ครั้งแรกกลับถูกโกงเงิน จึงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้มาซ้ำเติมกันในสังคมอีก ส่วนการรักษาพยาบาลจะดูว่าพอมีหน่วยงานไหนบ้าง เช่น มูลนิธิ หรือ กระทรวงสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลใดพอมีช่องทางรักษาดูแลค่าใช้จ่ายน้องได้ ส่วนความตั้งใจหลักคือต้องการอยากให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสเรียนหนังสือต่อ
และทันทีที่พูดจบเด็กได้เข้าสวมกอด ส.ส.ราชบุรี ด้วยความตื้นตันใจ และดีใจจนน้ำตาไหลอาบแก้ม ด้วยที่มีผู้ใหญ่ใจดีไม่ทอดทิ้ง และได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัว ให้สภาพร่างกายได้รับการรักษากลับมาเหมือนกับคนทั่วไป และมีโอกาสทางการศึกษาใหม่อีกครั้ง
สำหรับผู้ใจบุญอยากจะช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามที่ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ นางกุสิณี เจริญสุข แม่ของ ด.ญ หทัยชนก ฮะบุญมี หรือ น้องเนย 092- 6981972 หรือ สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ บัญชี ด.ญ.หทัยชนก ฮะบุญมี ธนาคารออมสิน สาขาศรีสุริยวงศ์ บัญชีเลขที่ 020327973788
ภัทรพงศ์ คำเปรม ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดราชบุรี