ข่าว

สภาพัฒน์ฯเคาะรอบแรกเงินกู้ 4 แสนล้าน เจียด 1 แสนล้าน ลง 213 โครงการ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สภาพัฒน์ฯเคาะรอบแรกเงินกู้ 4 แสนล้าน เจียด 1 แสนล้าน ลง 213 โครงการ- สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก- ความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน -กระตุ้นอุปโภคบริโภค ท่องเที่ยว พบหลายโครงการไม่ผ่าน ตัวเงินลงไปสนองบริษัทผู้รับเหมา จ้างที่ปรึกษาหรือจัดอีเวนต์มากเกินไป

วันนี้ 26 มิ.ย. มีรายงานว่า นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ได้นำคณะแถลงชี้แจงความก้าวหน้าของการวิเคราะห์โครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามแผนงานหรือโครงการที่ 3 ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 400,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในโครงการที่เสนอมารอบแรก พบว่า มีโครงการที่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้น และอยู่ระหว่างการคัดกรอง จำนวน 213 โครงการ วงเงิน 101,482.29 ล้านบาท จากที่หลายหน่วยงานเสนอมาทั้งสิ้น 46,411 โครงการ ขอรับจัดสรรงบ 1,448,474 ล้านบาท 

ที่ผ่านรอบแรกเป็นแผนงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก 129 โครงการ 58,069.71 ล้านบาท แผนงานสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน 77 โครงการ 20,989.81 ล้านบาท และแผนงานกระตุ้นอุปโภคบริโภค และกระตุ้นการท่องเที่ยว 7 โครงการ 22,422.77 ล้านบาท 

สำหรับโครงการที่มีโอกาสได้ใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน ตามการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากเพื่อดำเนินการทั่วประเทศ ได้แก่

1.โครงการด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ ได้แก่ โครงการโคกหนองนาโมเดล และโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่จะลงไปในตำบลต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ 240,021 ไร่ คาดว่าสามารถสร้างงานได้ 41,206 ราย มีพื้นที่เก็บน้ำเพิ่ม 867 ลบ.ม. และมีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น 43,799 ไร่

2. โครงการด้านการจ้างงาน คาดจะจ้างงานได้ 70,343 คน แบ่งเป็น จ้างงาน 14,510 คน เข้าไปเก็บข้อมูล 2 คน/ตำบล เป็นฐานข้อมูลชุมชนที่ยังไม่สมบูรณ์ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำผ่านระบบฐานข้อมูลชุมชนเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในชุมชน เช่น โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ, จ้างงาน 15,548 คน ผ่านโครงการจ้างอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น “ชำนาญการพิเศษ” ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงกว่า 710,518 คน ให้ได้รับการดูแล, จ้างงาน 40,285 คน ผ่านโครงการการพัฒนาป่าไม้ สร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน หรือโครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟสร้างรายได้ในชุมชน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว 170,000 ไร่ เช่น ปัญหาหมอกควันหรือดับไฟป่า

3. โครงการผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ให้ประชาชนคิดโครงการขึ้นมาเอง “นิวนอร์มัล” และจัดสรรให้กองทุน 79,604 กองทุนๆ ละ 200,000 บาท ในกรอบ 5 ด้าน ได้แก่ ส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน สร้างมูลค่าเพิ่มยกระดับสินค้าบริการ สร้างอาชีพใหม่ในชุมชน ด้านการขนส่งกระจายสินค้าและการตลาด คาดจะมีการจ้างงาน จนท.กองทุนหมู่บ้าน 238,812 คน (หมู่บ้านละ 3 คน) เช่นโครงการหมู่บ้านสมุนไพร ก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพารา สร้างรีสอร์ตท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

4. โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบล 7,255 ตำบล แต่จะเข้าไประยะแรก 3,000 ตำบล ผ่าน “สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในพื้นที่” ร่วมกับราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) จ้างงานบัณฑิตจบใหม่ และนักศึกษาในระบบ 60,000 คนเป็นพี่เลี้ยง ให้มีงานทำใน 3,000 ตำบลๆ ละ 20 คน ทำหน้าที่หลักในการช่วยเหลือชุมชนบูรณาการโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่เข้ามาในชุมชน ให้ตอบสนองความต้องการของชุมชน อาทิ ส่งเสริมเอสเอ็มอี โอทอป หรือท่องเที่ยวชุมชน 
 “คาดว่าร้อยละ 25 ของตำบลจะพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของตำบลจะยกระดับความพอเพียงและร้อยละ 25 จะอยู่รอดจากความยากลำบากและมีมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง”
5. โครงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม และระบบโลจิสติกส์ ที่ชาวบ้านคิดทั้งแพลตฟอร์มการท่องเที่ยว หรือแพลตฟอร์มด้านสินค้า ส่งของผ่านระดับพื้นที่

 อีกด้านสำหรับการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตที่จะทำกันทั้งประเทศมีแผนการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ แผนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ แผนการพัฒนาการท่องเที่ยว ภายใต้กรอบเงินกู้ 4 แสนล้าน เฉพาะ “แผนการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่” เช่น โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตร สมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) โครงการผลิตพืชพันธุ์ดีสนับสนุนให้กับ เกษตรกรและแรงงานคืนถิ่น หรือโครงการสร้างความเข้มแข็งศูนย์ข้าวชุมชน 

ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะพิจารณาโครงการให้แล้วเสร็จในวันที่ 1 ก.ค. โดยอนุกรรมการกลั่นกรองฯ และสำนักงบประมาณ อาจจะตัดลดงบสารพัดโครงการ ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี ให้เหลือ 7-8 หมื่นล้าน ก่อนส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อบรรจุวาระเสนอเข้า ครม. ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ต่อไป โดยแผนงานที่เกี่ยวเนื่องกับกระทรวง เช่น การจ้างงานจะเสนอกระทรวงเพื่อรับทราบต่อไป

สำหรับโครงการที่ไม่ผ่านหลายโครงการ ตัวเงินลงไปสนองบริษัทผู้รับเหมา จ้างที่ปรึกษา หรือจัดอีเวนต์มากเกินไป 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ