กอ.รมน.แจงแล้ว สาเหตุทำ "สิบโทคลั่ง" รัวปืนกลางตลาดเมืองยะลา

 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2563 พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยว่า จากกรณีนายสิบทหารเกิดภาวะเครียดและยิงปืนขึ้นฟ้า บริเวณหอนาฬิกา ย่านตลาดเก่าเมืองยะลา จ.ยะลา โดยเหตุเกิดวันนี้​(24 มิ.ย.)​ เวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา

 

จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ส.ท.สิทธิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) สังกัด ร้อย.ร.15211 ฉก.ยะลา 12 เหตุเกิดขณะเจ้าตัวได้รับมอบภารกิจให้ไปพัฒนาทำความสะอาดโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเตรียมตัวเปิดภาคการศึกษา ในวันที่ 1 ก.ค.63 ในระหว่างที่กำลังพลคนอื่นๆได้ทำความสะอาดอยู่ เจ้าตัวก็ได้เดินออกมาบริเวณหน้าโรงเรียน และได้ว่าจ้างรถจักรยนต์ของชาวบ้านให้มาส่งที่สถานีรถไฟเมืองยะลา ระยะทางประมาณ 800 เมตร เพื่อหวังจะขึ้นรถไฟเดินทางกลับบ้านที่ จ.เพชรบุรี

 

เมื่อมาถึงบริเวณสถานีรถไฟซึ่งในขณะนั้นยังไม่ถึงเวลาที่รถไฟจะเข้าเทียบชานชาลา ส.ท.สิทธิศักดิ์ จึงได้เดินไปหาญาติซึ่งพักอาศัยอยู่บริเวณตลาดเก่าใกล้สถานีรถไฟ และด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน ประกอบกับไม่ได้ลาพักเป็นเวลานานตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเจ้าตัวเป็นเจ้าหน้าที่ในชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนที่จะต้องเข้าชุมชนเพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เลยทำให้เกิดภาวะเครียดสะสม จึงได้นำอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ของตนเองยิงขึ้นฟ้า จำนวน 8 นัด ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงแจ้งเจ้าหน้าที่​เข้าควบคุมตัวเพื่อสงบสติอารมณ์ ปัจจุบันหน่วยงานต้นสังกัดได้รับตัวไปสอบสวนหาสาเหตุของการกระทำดังกล่าว เพื่อส่งตัวเข้ารับการรักษาและพิจารณาลงโทษตามความเหมาะสมต่อไป

 

 

 

"จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกทราบว่า ส.ท.สิทธิศักดิ์ มีอาการป่วยด้วยโรคภาวะซึมเศร้ามาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งหน่วยได้ให้เจ้าตัวปฏิบัติงานในส่วนที่ไม่ต้องมีภาวะตึงเครียดมากนัก แต่พอมาในระยะหลังมีปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องของทางบ้าน ประกอบกับไม่ได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดอาการตึงเครียดดังกล่าวขึ้น" รองโฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ระบุพร้อมกล่าวต่อว่า

 

 

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มีนโยบายในการดูแลด้านสิทธิและสวัสดิการ ตลอดจนการบำรุงขวัญให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จชต. มาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำผ่านผู้บังคับหน่วยในทุกระดับ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมติดตามการดูแลกำลังพลด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้จัดทีมแพทย์จากศูนย์อำนวยการแพทย์ จชต. เข้าทำการตรวจประเมินสุขภาพจิตของกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง

 

 

แต่ก็มิอาจจะปฏิเสธได้ว่ากำลังพลจะไม่มีภาวะเครียดทุกคน ซึ่งอาจจะมีอยู่บ้างเนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ที่ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน และต้องห่างบ้าน ห่างครอบครัวอันเป็นที่รักมาปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจและคอยให้กำลังใจผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จชต. พวกเราทุกคนพร้อมที่จะสละชีวิต สละความสุขส่วนตนเพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ปลอดภัยและใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข