สัมมนาค้นหาชาติพันธุ์"จ้วง-ไทย"ระดมนักประวัติศาสตร์-ผู้รู้ถกหาถิ่นกำเนิด | คมชัดลึก

 นายชาญ เนียมประดิษฐ์ ประธานบริหารโรงเรียนวัฒนธรรมและการศึกษาซีโน-ไท อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มกราคมนี้ โรงเรียนวัฒนธรรมและการศึกษา ซีโน- ไท ได้จัดโครงการงานสัมมนาเรื่อง “จ้วง-ไทย รากเหง้าเดียวกัน” ขึ้นที่โรงเรียนวัฒนธรรมและการศึกษาซีโน-ไท ชั้น 3 อาคารตลาดสดบางลำพู อ.เมือง จ.ขอนแก่น เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เพื่อรับฟังประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดชาติพันธุ์ของไทยที่น่าเชื่อถือ จากผู้เชี่ยวชาญชาวจีนและไทย ซึ่งมีวิทยากรรับเชิญประกอบด้วย ศ.ฟ่าน หง กุ้ย ผู้เชี่ยวชาญด้านชาติพันธุ์วิทยาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดร.ลู่ เสี่ยว ชิง  นายฮั่น ปอ นายทองแถม นาถจำนง บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน อุปนายก สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย 

 "เพราะชาติพันธุ์หรือรากเหง้าต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ของชนชาติไทย ยังเป็นที่กังขาของนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ของไทย มีหลายหลักฐานทางภาษาศาสตร์และสังคมศาสตร์ที่สนับสนุนและทำให้เชื่อว่า คนไทยเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ ณ ดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้มาตั้งแต่ต้น เนื่องจากคนไทยมีลักษณะคล้ายกับชนชาติจ้วงแห่งมณฑลกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปัจจุบันทางการจีนได้รวมข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าต่างๆ มากกว่า 30 กลุ่มที่ใช้ภาษาจ้วงเข้าด้วยกัน น่าสังเกตว่า ภาษาจ้วงเป็นตระกูลเดียวกับภาษาไทย มีคำศัพท์ร่วมกันหลายคำที่คนไทยสามารถสื่อสารเป็นคำๆ กับชาวจ้วงได้ แต่ไม่อาจเข้าใจเป็นประโยคได้เพราะชาวจ้วงรับเอาภาษาจีนมาใช้กันมาก แต่เมื่อเทียบกับภาษาลาวคนไทยสามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องมีล่ามแม้ว่าศัพท์บางคำจะไม่เหมือนกันก็ตาม แต่เมื่อประวัติศาสตร์ภาษาไทยไปรับเอาบาลี - สันสกฤตเข้ามามาก ชาวจ้วงจึงไม่เข้าใจภาษาไทยทุกวันนี้ นักภาษาศาสตร์จึงใช้หลักการด้านการพัฒนากำเนิดภาษาสรุปว่า ภาษาจ้วงเป็นต้นกำเนิดของชนชาติและตระกูลไทย"

 นายชาญกล่าวว่า การสัมมนาของผู้รู้และนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชนชาติจ้วง-ไทย จะเป็นเส้นทางย้อนตำนานให้ชนรุ่นหลังเข้าใจรากเหง้าของชาวไทยในอีกมุมมองหนึ่ง ที่อาจนำไปสู่การค้นพบประวัติศาสตร์และเหตุผลใหม่ของการกำเนิดชนชาติไทย ที่อาจไม่ได้อพยพมาจากดินแดนอื่น แต่กลับมีเผ่าพันธุ์ ดั่งพี่น้องทองแผ่นเดียวกันกับชนชาติจีนหรือชาวจ้วง ชาวลาวและพม่า ที่มีแต่เพียงเขตการปกครองประเทศที่แบ่งชัดเจนในปัจจุบันนี้เท่านั้น "อยากเชิญคนที่สนใจ โดยเฉพาะชาวไทย เชื้อสายจีน นักเรียน นักศึกษา คณาจารย์ มาร่วมรับฟัง" นายชาญ กล่าว