จับอดีตอาจารย์โรงเรียนมีชื่อ ล่วงละเมิดเด็กและล่อลวงเด็กขายคลิปโป๊ออนไลน์

ชุดปฏิบัติการ TICAC ร่วมกับตำรวจกองกำกับการสืบสวน 4 อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตำรวจภูธรภาค 5 บุกเข้าจับกุมอดีตอาจารย์พิเศษโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่พบของกลางโน๊คบุ๊ค เอสดีการด์ และแฮนดี้ไดฟ เกือบ 10 อันที่มีการเก็บภาพโป๊เปลื่อยของเด็กชายและหญิงจำนวนมาก ตั้งข้อหา  ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน เวลา 6.00 น. พล.ต.ตวีรชน บุญทวี  ผบก.สส.ภ.5  พ.ต.อ.วรพงษ์  คำลือ  รองผบก.สส.ภ.5  พร้อมเจ้าหน้าที้ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5  และชุดปฏิบัติการ TICAC  นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีผู้ใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตโหลดคลิปลามกอนาจาร โป๊เปลื่อย ของเด็กหญิงและเด็กชาย อายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์จำนวนมาก
จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก เจ้าหน้าที่พบคอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊ก 2 เครื่อง ข้อมูลภายในมีภาพลามกอนาจาร และภาพโป๊เปลือยของเด็กจำนวนมาก รวมทั้ง แฮนดี้ไดรฟ์และเอสดีการ์ดอีกกว่า 10 อัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม พร้อมควบคุมตัวนายชายอายุ 33 ปี ไปสอบสวน

สอบสวนนายชายวัย 33 ปี ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นครูพิเศษสอนวิชาดุริยางค์ศิลป์และลีลาศ ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาหมดสัญญาจ้างจึงอยู่ระหว่างหางานทำ ส่วนภาพโป๊เปลืออยทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยซื้อและโหลดมาจากทวิตเตอร์ และกลุ่มไลน์ลับที่ต้องจ่ายเงินสมัครสมาชิกจึงจะเข้าร่วมกลุ่มได้ ซึ่งคลิปภาพทั้งหมดโหลดมาดูส่วนตัวเท่านั้นและโหลดไว้นานแล้วจึงมีจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.อ. วรพงศ์ คำลือ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยพบว่าผู้ต้องหาซื้อขายและโหลดภาพลามกอนาจาร และคลิปภาพโป๊เปลือยของเด็กมาจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะเดียวกันก็เตรียมตรวจสอบและขยายผลเพิ่มเติมถึงแหล่งที่มาของสื่อลามากอนาจารทั้งหมด ว่าจะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่  พร้อมกันนี้ขอฝากเตือนไปประชาชน ว่าการครอบครองสื่อมามกอนาจารเด็กนั้นมีความผิด ส่วนเด็กและเยาวชนก็ไม่ควรหลงเชื่อมิจฉาชีพที่ล่อลวงให้ถ่ายภาพโป๊เปลือยของตนเอง เพราะอาจถูกนำไปเปยแพร่ในโซเชียลมีเดียเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าได้
ทั้งนี้ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการ ICAC ที่ได้เปิดปฏิบัติการ “Save Children Operation” กวาดล้างขบวนการละเมิดเด็กและล่อลวงเด็กออนไลน์ ช่วงโควิด19  ในห้วงเวลา 56 วัน ในพื้นที่ 24 จังหวัด สามารถ จับกุมได้ 53 คดี รวมผู้ต้องหา 47 คน (เป็นคนไทย 45 และต่างประเทศ 2 คน สามารถช่วยเด็กที่ตกเป็นเหยื่อได้เบื้องต้น 100 คน (เด็กชาย 89 คน และเด็กหญิง 11 คน) โดยเป็นเหยื่อที่แจ้งความไว้แล้ว 40 คน (เด็กชาย 31 คน เด็กหญิง 9 คน) ที่เหลืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบอีกจำนวนมาก  มีไฟล์สื่อลามกเด็กเข้าไปเกี่ยวข้องมากกว่า 150,000 ไฟล์

นิวัตร ธาตุอินจันทร์ ผู้สื่อข่าวภูิภาค จังหวัดเชียงใหม่