ชาวบ้านโวยซื้อบ้านจัดสรรราคาเป็นล้านอยู่ได้ไม่กี่ปี"บ้านทรุดร้าว"ถามความรับผิดชอบ ให้ฟ้องศาลเอา ชาวบ้านสุดทนร้องสื่อช่วย
วันที่ 17 มิ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลอุทัย หมู่ 12 อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าซื้อบ้านได้ไม่กี่ปี ตัวบ้านทรุดทำให้เกิดรอยแตกร้าวทั้งหลัง แจ้งให้โครงการมาซ่อมแซมก็ไม่หาย แต่มีรอยร้าวเพิ่มเติมอีกมากกว่า 30 หลังคาเรือน ขอดูแบบแปลนว่าโครงสร้างได้มาตรฐาน หรือเปล่า ก็ไม่มีให้ อ้างว่าเลยกำหนดรับประกันระยะเวลา 5 ปี ทั้งที่ยังไม่ถึง เคยร้อง สคบ.แต่ยังไม่คืบ ล่าสุดเทศบาลนัดไกล่เกลี่ย ไล่ไปฟ้องศาล ชาวบ้านสุดช้ำทำงานหาเช้ากินค่ำ ซื้อบ้านราคาเป็นล้านต้องมานั่งผ่อนเสียดอกเบี้ยยังไม่พอ ยังต้องหาเงินมาซ่อมบ้านเอง แถมต้องจ้างทนายฟ้องศาลอีก
สอบถามน.ส.ยุพิน นิลพฤกษ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 /153 หมู่ 12 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้ซื้อบ้านหลังนี้ไว้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2557 ในราคา 9 แสนกว่าบาท ผ่อนชำระ เดือนละ 8,100 บาท ระยะเวลา 25 ปี รวมต้นและดอก เกือบๆสองล้านบาท เข้าอยู่ได้ประมาณ 2 ปี บ้านเกิดทรุดร้าวแจ้งโครงการให้ทราบโครงการก็มาตอกเสาเข็มให้ใหม่ แต่พออยู่ไปสักพัก ก็เกิดรอยร้าวขึ้นอีกจนฝาผนังตัวบ้าน แตกแยกออกจากันจนมองทะลุเห็นด้านนอก แจ้งโครงการให้มาซ่อมให้ก็เงียบเฉยไม่มาซ่อมให้ จึงเอาเทปกาวไปแปะปิดรอยแตกร้าวเอาไว้เพื่อไม่ให้ยุ่งบินเข้ามาในบ้านได้ เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน ก็บอกว่าเจอปัญหาเดียวกัน จึงได้ปรึกษากับนางสาวชลิตา คงสุข ประธานกรรมการนิติบุคคล หมู่บ้านจัดสรร รวมตัวกันร้องสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2562
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 มีหนังสือจากเทศบาลตำบลอุทัย ตามคำสั่งของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้นัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ระหว่างชาวบ้าน 34 คน กับ ตัวแทนโครงการหมู่บ้านจัดสรร โดยแต่งตั้งให้ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ประจำเทศบาลตำบลอุทัย มีอำนาจหน้าที่ในการไกล่เกลี่ย ในวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เวลา 10.00 น. ณ อาคารหลังโดมเอนกประสงค์ สำนักงานเทศบาลตำบลอุทัย ซึ่งทางโครงการหมู่บ้านจัดสรร ได้ส่งนายเอกนรินทร์ หนูมี ทนายความ และเจ้าหน้าที่โครงการหมู่บ้านจัดสรร เป็นตัวแทน ซึ่งการเจรจาทางชาวบ้านบอกว่า ต้องการให้เจ้าของโครงการออกมารับผิดชอบ โดยอ้างว่ารูปแบบ ระบบการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่ทราบว่าทางเทศบาลได้มีการตรวจสอบหรือไม่ เพราะชาวบ้านขอดูแบบการก่อสร้างก็ไม่มีให้ชาวบ้านดู อ้างว่าได้ทำลายไปแล้ว เพราะหมดอายุการเก็บรักษา ชาวบ้านกว่า 30 หลัง ถามว่าบ้านที่ทรุดร้าว ต้องรอให้มันพังทลายลงมาก่อนใช่ไหม ทางตัวแทนโครงการหมู่บ้านจัดสรร ได้บอกแต่เพียงว่าให้ดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย หากศาลว่าอย่างไร ทางโครงการก็ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ แล้วชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ จะหาเงินที่ไหนไปสู้คดี เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
ด้านนายปฏิพัทธ์ ราชเจริญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/135 หมู่ 12 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า บ้านตนก็มีปัญหาแบบเดียวกัน ซึ่งตนซื้อบ้านมาปีแรกก็ทรุดร้าวแล้ว แรกๆโครงการก็มาซ่อมแซมให้ หลังๆมาแตกร้าวทั้งหลัง แจ้งโครงการแล้วยังเงียบเฉย คิดว่าเป็นที่ระบบการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้บ้านทรุด แตกร้าวเสียหายได้มากขนาดนี้ และไม่ได้เป็นแค่บ้านเดียว แต่ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 30 หลัง จึงอยากขอความเห็นใจจากเจ้าของโครงการให้เห็นใจชาวบ้านตาดำๆที่หาเช้ากินค่ำ หวังมีบ้านไว้อยู่ในยามแก่เฒ่า ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้แรงงานที่ทำงานในโรงงาน แค่ผ่อนก็จะแย่อยู่แล้ว ยังต้องมาซ่อมแซมบ้านทรุดร้าวอีก คงแย่แน่
เกียรติยศ ศรีสกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง