ป. "หนุมาน" นำปราบทลายเครือข่าย "ปืนเถื่อน" บุกบ้านรวบแอดมินกลุ่มค้าขายออนไลน์ รับลักลอบจำหน่ายจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้ผลิต
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ.) นำหมายค้นศาลอาญากระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 31 จุด ในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว ตาก ชลบุรี ราชบุรี โคราช สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์
โดยเป้าหมายของชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน จุดสำคัญของปฏิบัติการจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ตั้งอยู่ที่บ้านในหมู่บ้าน ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังพบว่าเป็นที่กบดานซ่อนตัวของ นายปริญญา เอี่ยมละมัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันทำและมีอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืน , อั้งยี่”
พ.ต.ต.ทัตภร เลขะวัฒนพงษ์ สว.กก.1 บก.ป. จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น ทันทีที่ไปถึงพบบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ สูง 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อม ก่อนแสดงตัวเข้าทำการค้นพร้อมกับจับกุมตัวนายปริญญาได้โดยละม่อม
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายปริญญาให้การรับสารภาพว่าได้เปิดกลุ่มไลน์ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ผลิตอาวุธปืนเถื่อน ทั้งนี้ ตรวจค้นภายในบ้านพบปืน จำนวน 2 กระบอก ซึ่งเป็นปืนที่ใช้รีวิวขายทางสื่อสังคมออนไลน์
สำหรับการตรวจค้นจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบเบาะแสว่ามีการตั้งกลุ่มไลน์ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนที่ผลิตขึ้นเอง โดยมีทั้งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่หล่อขึ้นรูปเอง และอาวุธปืนที่ดัดแปลงมาจากปืนบีบีกัน โดยกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกจากทั่วประเทศในกลุ่มมากถึงกว่า 1 พันคน ซึ่งในกลุ่มจะมีนายปริญญาเป็นแอดมินหลัก ทำหน้าที่จัดหาปืนจากแหล่งผลิตต่างๆ มาจำหน่ายให้กับสมาชิกที่สนใจหรือสั่งซื้อ
เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปจนกระทั่งพบว่ามีการกระทำความผิดลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลออกหมายจับและหมายค้นจนนำไปสู่ปฏิบัติการจับกุมดังกล่าว
ที่ กองบังคับการปราบปราม พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการ พร้อม พันตำรวจเอก ธงชัย อยู่เกษ ผู้กำกับการ กองกำกับการ 1 และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหนุมาน แถลงผลการจับกุมเครือข่ายขายอาวุธปืนและกระสุนออนไลน์ทั้งหมด 9 ราย ประกอบด้วย 1. นายปริญญา เอี่ยมละมัย อายุ 38 ปี 2. นายพัฒนะ การะเกตุ อายุ 37 ปี 3. นายเทพพร แก้วพระอินทร์ อายุ 31 ปี 4. นายสมยศ อยู่เจริญ อายุ 22 ปี 5. นายวรายุ กะลำพา อายุ 30 ปี 6. นายศรศักดิ์ นาระหัส อายุ 32 ปี 7. นายสิธร ศรีใส อายุ 27 ปี 8. นายวรวุฒิ พิมพ์สา อายุ 29 ปี และ 9. นายธนพัฒน์ ค้องรัมย์ อายุ 30 ปี
ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันทำและมีอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืน และเป็นอั้งยี่” หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบปรามกระจายกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาในพื้นที่เป้าหมาย 31 จุด 14 จังหวัดทั่วประเทศ ยึดอาวุธปืนได้ 11 รายการ กระสุน 600 นัด ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกว่าร้อยรายการ
พันตำรวจเอก เอนก กล่าวว่า เมื่อปี 2562 ตำรวจกองปราบฯ ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีแก๊งบันไรกัน ได้สาธิตการใช้อาวุธปืนเถื่อนผ่านยูทูบและโฆษณาขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์ในราคาหลักหมื่นบาท ซึ่งต่ำกว่าปืนถูกกฎหมายหลายเท่า พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 9 ราย
"วันนี้ได้นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายพร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมด ซึ่งการสืบสวนพบว่าพฤติกรรมของขบวนการนี้แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. แอดมินกลุ่มไลน์ ทำหน้าที่จัดหาเสนอขายและรีวิวอาวุธปืน 2. ผู้ผลิต จะจัดทำสินค้าตามรายการสั่งเข้ามาผ่านแอดมิน 3. ผู้จัดส่งสินค้าผ่านทางบริษัทเอกชน และ 4. ฝ่ายบัญชี นอกจากนี้ตำรวจยังได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 5 ราย รวมผู้ต้องหา 14 ราย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 ราย นั้นทำหน้าที่อะไร เนื่องจากพบว่ามีการโอนเงินให้กับนายหน้าที่ขายอาวุธปืนในกลุ่ม และ 1 ใน 5 รายนี้ยังทำหน้าที่ปล่อยกู้เงินสำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อปืนอีกด้วย จากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลตรวจสอบยอดเงินหมุนเวียนในบัญชี พร้อมตรวจสอบว่าอาวุธปืนที่ได้จากการขายจะถูกนำไปใช้กระทำความผิดหรือไม่"
พันตำรวจเอก เอนก กล่าวอีกว่า การซื้อขายหรือผลิตอาวุธปืนต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงบีบีกันที่นำมาดัดแปลงก็ถือเป็นอาวุธปืนมีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน ซึ่งจะมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
อ่านข่าว - สุดสลดดับคาบ้านแม่ปัดประกันตัวลูกสาวต้องสงสัยมาหาพ่อบังเกิดเกล้า (มีคลิป)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง