
เตือน กินลูกเนียงเสี่ยงไตวาย ทำปัสสาวะลำบาก
กรมควบคุมโรค เตือน การกินลูกเนียงในปริมาณที่มากเกินไปนั้น เสี่ยงไตวาย ปวดบริเวณขาหนีบ ทำให้ปัสสาวะลำบากด้วย
กรมควบคุมโรคเตือน การกินลูกเนียงในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการป่วยจากอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังมีอาการทางไต ปวดบริเวณขาหนีบ ปัสสาวะลำบากและปวดปัสสาวะมากอีกด้วย
ลูกเนียง หรือ เมล็ดเนียง เป็นพืชที่นิยมกินกันในภาคใต้ สามารถนำมากินกับน้ำพริก หรือแกงพุงปลา หรือนำมาต้มทำของหวาน ส่วนที่นำไปกินคือ เมล็ดข้างในเปลือก มีกลิ่นฉุน รสชาติมัน อร่อย กินได้ทั้งผลอ่อนและแก่ ลูกเนียงมีสรรพคุณช่วยควบคุมเบาหวาน และขับปัสสาวะ แต่ในด้านความเป็นพิษพบว่ามีสารพิษที่เรียกว่า "กรดเจงโคลิค" เป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูงมาก สารพิษชนิดนี้จะทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง หากอาการรุนแรงจะทำให้ไตล้มเหลวจนถึงเสียชีวิตได้
อาหารเป็นพิษจากลูกเนียงโดยทั่วไปพบได้น้อย โดยรายที่มีอาการพบว่ากินลูกเนียงดิบปริมาณมาก แล้ว 2-14 ชั่วโมงต่อมา จะมีอาการทางไต ปวดบริเวณขาหนีบ ปัสสาวะลำบากและปวดปัสสาวะมาก น้ำปัสสาวะขุ่นข้นเป็นสีน้ำนม และอาจปัสสาวะเป็นเลือด บางรายมีอาการปวดท้องเป็นพัก ๆ ร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน ในรายที่รุนแรงขึ้นอาจปัสสาวะไม่ออก ซึ่งเรียกว่าเป็น นิ่ว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า มัด และอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เองใน 3-4 วัน บางรายมีไข้ต่ำ ปัสสาวะน้อยและมีความดันโลหิตสูงได้
กรมควบคุมโรค ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการกินพืชที่เข้าใจว่ากินได้ ซึ่งหากกินในปริมาณมากเกินไปหรือไม่ทำให้พิษในพืชน้อยลงหรือหมดไป อาจทำให้เป็นอันตรายได้ จึงควรสืบค้นหรือถามข้อมูลก่อน ส่วนวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลงคือ นำเมล็ดไปเพาะในทราย ให้มีหน่อต้นอ่อนงอกออกมา หรือนำเมล็ดไปต้มให้สุก หรือหั่นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากแดดก่อน
หากมีอาการสงสัยอาหารเป็นพิษจากลูกเนียง หรือหลังกินพืชบางชนิดแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน มึนงง ให้รีบไปพบแพทย์และบอกประวัติการกินอาหารที่สงสัยให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อให้การรักษาได้ถูกต้องและทันเวลา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422