ข่าว

"บิ๊กตู่"สั่งตร. จัดการเด็กแว้นเด็ดขาด ชี้ตัวสร้างความรำคัญ-แพร่เชื้อโควิด(คลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่"สั่งตร. จัดการเด็กแว้นเด็ดขาด ชี้ตัวสร้างความรำคัญ-แพร่เชื้อโควิด ลุ้นมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว หลังครม.พรุ่งนี้

วันที่ 15 มิ.ย.2563 เมื่อเวลา 9.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมสภาทหารผ่านศึก ครั้งที่ 2/2563 เรื่องการช่วยเหลือทหารผ่านศึกในสถานการณ์แพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยภายหลังประชุม นายกฯให้สัมภาษณ์ถึงการผ่อนคลายมาตรการปลดล็อกเฟส 4 ที่มีการจับกุมเด็กแว๊นจำนวนมาก ว่า ถ้าทำกันแบบนี้ เดี๋ยวการแพร่ระบาดก็จะกลับมาใหม่ และจะกลับมาประกาศเคอร์ฟิวใหม่ ก็แค่นั้นเอง ถ้าทุกคนยังไม่รู้จักควบคุมตัวเอง สถานประกอบการต่างๆทั้งหมด ก็ต้องช่วยกันดูแล มาตรการของรัฐว่าอย่างไร และต้องขอบคุณที่ทำมาตรการเพิ่มเติมจากของรัฐ ถือว่าช่วยชาติช่วยประชาชน และช่วยธุรกิจของตัวเองด้วย ถ้าใครไม่อยากจะทำอะไรเลย มันควรจะปลดล็อกให้หรือไม่ ซึ่งต้องมีทั้งสองทางเสมอ รัฐบาลทำระดับนโยบายในการผ่อนปรน ซึ่งทำมาตามลำดับจนสถานการณ์ดีขึ้น และดีกว่าหลายประเทศ แต่ทั้งหมดด้วยความร่วมมือของประชาชนใช่หรือไม่ ฉะนั้น เมื่อเราผ่อนผันไปแล้ว ไม่ให้ความร่วมมือ ทุกอย่างก็ต้องกลับไปที่เดิม

เมื่อถามว่า กรณีการจับกุมเด็กแว๊น ต้องมีการตั้งด่านเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ปกติมีอยู่แล้ว ตำรวจก็มี เดิมไม่มีประกาศเคอร์ฟิว ก็จับกุมกันอยู่แล้ว วันนี้ต้องจับมาติดคุก เรื่องประกันต้องว่ากันอีกที เพราะวันนี้ยังมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอยู่ การกระทำดังกล่าวถือว่าสร้างความรำคาญ และแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ตนได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว 


 “สิ่งที่นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงก็คือตรงนี้ ไม่อยากให้กลับไปที่เดิมเพราะเรื่องเศรษฐกิจสำคัญ เรื่องสุขภาพก็สำคัญ ผมขอตอบแค่นี้ ในเรื่องมาตรการระยะที่สี่แต่ยังมีติดอยู่อีกหลายเรื่อง ก็ต้องดู ถ้าปล่อยระยะสี่ไปแล้ว สถิติการติดเชื้อเพิ่มในแต่ละวันจะมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร วันนี้โชคดี เป็นการแพร่ระบาดที่มาจากต่างประเทศ และอยู่สถานที่กักกันของรัฐ ที่ตั้งขึ้นมา จนสามารถควบคุมได้จนถึงทุกวันนี้ แรกๆส่วนใหญ่ไม่ยินยอมกัน วันนี้ได้เห็นประโยชน์ว่าที่เราทำไปนั้นดีตรงไหน และเราร่วมมือได้อย่างไร มันอาจจะไม่เสรีร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยข้อจำกัดด้านสุขภาพ” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการท่อเที่ยว มีสองอย่างคือการท่องเที่ยวในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งกำลังพิจารณาพื้นที่ท่องเที่ยวอยู่ โดยนายกฯได้ให้แนวทางการท่องเที่ยวทราเวล บับเบิ้ล เป็นกรอบว่าพิ้นที่ไหนจะเที่ยวได้บ้าง หากคนในประเทศจะไปเที่ยวพิ้นที่ไหน ก็ต้องสามารถคอนโทลได้ ในเรื่องความพร้อม ทั้งเมืองหลัก เมืองรอง จะต้องมีมาตรการ และภาครัฐก็มีการคัดกรอง เมื่อเดิดนทางไปเที่ยวก็ต้องใส่หน้ากากอานามัย และเว้นระยะห่าง เมื่อรัฐผ่อนคลายไปแล้ว หากไม่ให้ความร่วมมือก็จะทำให้เกิดปัญหากลับมาอีก ก็ต้องหยุดกันอีก ส่วนการท่องเที่ยวทราเลล บับเบิ้ล หมายความจะไปเที่ยวที่ไหน ไม่ใช่ไปแล้วสะเปะสะปะ ทั้งนี้ เพื่อนำทางนักท่องเที่ยวตางประเทศ เข้ามาแล้วต้องควบคุมได้ และต้องเว้นระยะห่าง 14 วันที่เข้ามาเขาจะเที่ยวที่ไหนได้บ้าง เข้าสถานที่พักใดได้บ้าง ต้องทำโปรแกรมเหล่านี้ออกไป ถ้าเขาอยากจะมาก็มา ดีหรือไม่ แบบนี้ปลอดภัยกว่า ถ้าปล่อยเสรีคงตามไม่ไหว อย่างไรก็ตามแพ็กเกจการท่องเที่ยวต้องหารือกันก่อน ขอให้รอฟังพรุ่งนี้(16 มิ.ย.)หลังการประชุมครม.และต้องฟังสถานการณ์โควิด-19 ด้วย

นายกฯกล่าวต่อว่า สิ่งที่เราทำไปแล้ว ในกลุ่มนักธุรกิจที่มาลวงทุนในประเทศ ซึ่งปล่อยให้เข้ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว และเขาพักอยู่ Alternative State Quarantine เพื่อให้เกิดความมั่นใจ นักธุรกิจเหล่านี้ได้ไปตรวจงาน การลงทุน ดูตลาด การเจรจาค้าขายยังมีอยู่
 เมื่อถามว่า การเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไทย จะต้องกำหนดจำนวนการเข้ามาแต่ละวันหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ต้องกำหนดจำนวนคน กำหนดเที่ยวบิน มีใบรับรองแพทย์ สถานกักกันตัวของรัฐยังมีเหมือนเดิม กำหนดเมืองต่อเมืองที่ปลอดภัย ต้องมีกติกาออกมา และต้องมาจากพื้นที่ประเทศที่ปลอดภัย และมีความร่วมมือเมืองต่อเมือง รัฐบาลคิดละเอียดแบบนี้  ถ้ารับกติกาได้ก็สามารถมาเที่ยวได้ เช่นเดียวกับพื้นที่ท่องเที่ยวก็ต้องจำกัด

 ถามต่อว่า คนไทยยังไม่สบายใจที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่ได้ปล่อยเลย แค่พูดให้ฟังเฉยๆสื่ออย่าเพิ่งไปขยาย ตนยังไม่ได้อนุญาตให้เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ