กลายเป็นกรณีศึกษา ช่างทำผม 2 คนในร้านติดโควิดแบบมีอาการ ลูกค้า 140 คนรอด

ช่างทำผม 2 คน จากร้าน เกรต คลิปส์  สาขาเมืองสปริงฟีลด์ รัฐมิสซูรี ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่โดยมีอาการป่วยแล้ว แต่ก็ยังไปทำงานหลายวัน เป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐก่อนหน้านี้ ท่ามกลางเสียงตำหนิ และความวิตกว่าลูกค้าราว 140 คนและเพื่อนร่วมงานอีก 7 คน  อาจติดเชื้อไปด้วย แต่ผ่านไป 14 วัน  ไม่พบว่ามีใครติดเชื้อไวรัสแม้แต่คนเดียว  โดยร้านทำผมแห่งนี้ ทั้งลูกค้าและพนักงานทุกคนต่างสวมหน้ากาก  มีการวางระยะห่างของเก้าอี้ที่นั่ง และวางแผนนัดหมาย  

ช่างทำผมหนึ่งในสองคน ให้บริการลูกค้า 56 คน ส่วนช่างทำผมคนที่สอง  ทำผมให้กับลูกค้า 84 คน ทั้งสองยังคงไปทำงานที่ร้าน 8 วันก่อนพบติดเชื้อเมื่อ 20 พ.ค. สำนักงานสุขภาพเคาน์ตี สปริงฟีลด์-กรีน  ออกแถลงการณ์ในสัปดาห์นี้ว่า ผลตรวจ 46 คนจาก 140 คน ออกมาเป็นลบ ส่วนคนที่ไม่ได้ตรวจ  กักตัวดูอาการ และรับโทรศัพท์ตอบคำถามเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุก 2 วันว่ามีอาการใดหรือไม่ เมื่อครบ 14 วัน ไม่พบว่ามีใครป่วย  

เคลย์ กอดดาร์ด ผู้อำนวยการสำนักงานฯ กล่าวว่า นี่เป็นข่าวน่าตื่นเต้น เกี่ยวกับผลจากการใส่หน้ากากป้องกันโควิด-19  และเรากำลังศึกษารายละเอียดทุกแง่มุม รวมถึงชนิดของหน้ากากหรือผ้าปิดหน้า และมาตรการอื่นๆที่นำมาใช้ ทำให้ไม่มีใครติดเชื้อเลย 

นอกจากความสำคัญของหน้ากากแล้ว กรณีนี้ยังตอกย้ำความสำคัญของการติดตาม และกักตัว เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด ทางร้านได้เก็บข้อมูลการติดต่อของลูกค้าไว้อย่างไม่มีที่ติ ช่วยได้มากในเรื่องการสอบสวนโรค  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองจะดึงข้อมูลเชิงลึกจากกรณีของร้านทำผมมาศึกษา 

ผลศึกษาพบว่าการรักษาระยะห่างทางร่างกาย กับการใช้หน้ากาก คือสองมาตรการดีที่สุดในการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า ล่าสุด วารสาร แลนเซ็ต เผยแพร่ผลศึกษาในเดือนนี้ว่า เราควรยืนห่างกัน 6 ฟุต และสวมหน้ากาก โอกาสแพร่เชื้อโดยไม่มีหน้ากากอยู่ที่ 17.4% แต่โอกาสนั้นจะลดฮวบอยู่ที่ 3.1% เมื่อสวมหน้ากาก  ส่วนองค์การอนามัยโลกก็มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการแล้วว่า ทุกประเทศควรกระตุ้นประชาชนสวมหน้ากากเมื่อออกไปข้างนอก และในสถานที่ที่ไม่สามารถรักษาระยะห่างได้ 

สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อยืนยันทะลุ 2 ล้านรายแล้ว จำนวนนี้เสียชีวิตกว่า 1.12 แสนราย