ทีมงานทรัมป์จี้ CNN ขอโทษ-ถอนผลโพลล์ยกไบเดนนำห่าง สื่อใหญ่บอก 40 ปีไม่เคยเจอ

ผลหยั่งเสียงชาวอเมริกันที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งของ CNN จัดทำโดย SSRS เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ พบว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามหลัง อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต 41% -55% 
ทั้งยังพบว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ครองความนิยมที่เพียง 38% ย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่มกราคม 2562 ขณะมีผู้ไม่พอใจผลงาน 57% 

ความนิยมตามหลังถึง 14% เป็นเหตุให้ทีมหาเสียงของทรัมป์ ส่งจดหมาย “ให้หยุดการกระทำอันเป็นการละเมิด” ถึง เจฟฟ์ ซัคเกอร์ ประธานซีเอ็นเอ็น เรียกร้องให้สื่อยักษ์ใหญ่ ถอนผลสำรวจและขอโทษ โดยในจดหมายระบุว่าโพลล์ของซีเอ็นเอ็น ออกแบบมาเพื่อชี้นำผู้มีสิทธิเลือกตั้งผ่านแบบสอบถามและสุ่มสำรวจแบบมีความลำเอียง ให้ภาพกระแสนับสนุนทั่วประเทศต่อประธานาธิบดีอันเป็นเท็จ  

จดหมายฉบับนี้ ซึ่งลงนามโดย เจนนา เอลลิส  ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโสทีมหาเสียง และไมเคิล กราสเนอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ยังได้ร้องขออย่างเป็นทางการ ให้ซีเอ็นเอ็น พิมพ์เผยแพร่คำขอโทษ ถอนโพลล์ที่น่ากังขา และแก้ไขเนื้อหาชี้นำให้ถูกต้อง 

David C Vigilante รองประธานบริหาร และที่ปรึกษาซีเอ็นเอ็น ส่งจดหมายตอบกลับทีมงานของทรัมป์ ว่า ขอฏิเสธข้อกล่าวหาและข้อเรียกร้องทั้งหมด  และว่าซีเอ็นเอ็นเคยถูกผู้นำการเมืองขู่ฟ้องในอดีต แต่โดยทั่วไป มาจากเวเนซูเอลาหรือระบอบอื่นที่ไม่ได้เคารพสื่ออิสระและเสรี  “เท่าที่ผมทราบ นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 40 ปีที่ ซีเอ็นเอ็นถูกขู่ดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะนักการเมืองอเมริกันหรือทีมหาเสียง ไม่ชอบผลสำรวจคิดเห็นของซีเอ็นเอ็น” 

หลังจาก CNN เผยแพร่ผลโพลล์ในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ ทวีตว่าเขาได้จ้างสำนักจัดทำโพลล์ของรีพับลิกัน  McLaughlin & Associates วิเคราะห์ผลสำรวจ ที่เขาคิดว่า ปลอม เมื่อดูจากกระแสที่เขาได้รับดีอย่างเหลือเชื่อ

ขณะที่ McLaughlin เป็นสำนักจัดทำโพลล์ที่ถูกจัดอันดับแม่นยำน้อยที่สุด  นอกจากนี้ โพลล์หลายสำนักที่เผยแพร่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่มานี้ ไม่ว่าจะของ เอบีซีนิวส์/วอชิงตันโพสต์ มหาวิทยาลัยมอนเมาท์   NPR/PBS นิวส์อาวร์  เอ็นบีซีนิวส์/วอลล์สตรีทเจอร์นัล ตลอดจนฟอกซ์นิวส์ ก็พบเช่นกันว่า ไบเดน มีคะแนนนิยมเหนือทรัมป์ และโดยเฉลี่ยก็ทิ้งห่างเลข 2 หลัก