ข่าว

ประสบการณ์เฉียดตายเตือนสติสายความเร็ว ตูมเดียวชีวิตเปลี่ยน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มอดีตนักแข่ง จยย. แชร์ประสบการณ์เฉียดตายเตือนสติเพื่อนๆ สายความเร็ว หลังเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุจนอาการสาหัสที่ต้องบอกว่า ตูมเดียวชีวิตเปลี่ยนไปเลย

อุทาหรณ์ ที่จะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างดีสำหรับคนที่ชอบเรื่องของความเร็ว เพราะเคสนี้ หนุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์เฉียดตาย หลังเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุที่งานนี้ต้องบอกว่า อาการของเขาหนักเอาการเลยทีเดียว และเกือบที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

 

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chavanakorn Boosai ซึ่งเจ้าตัวถือว่าเป็นผู้ที่ชื่นชอบความเร็วแบบสุด ๆ และเป็นอดีตนักแข่งรถ จยย. ได้โพสต์เตือนสติเพื่อนๆ โดยหวังว่าเคสของเขาจะเป็นอุทาหรณ์เตือนสติสำหรับคนที่ชอบเรื่องของความเร็วได้เป็นอย่างดี 

 

เขาประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บสาหัส สันหลังหัก 4 ท่อน ซี่โครงหัก 4 ท่อน ปอดทะลุ ผ่าตัด 2 รอบ และเส้นประสาทขาดเกือบหมดตัวกว่า 60% ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมากถึง 3 ล้านบาท ที่สำคัญเขารู้สึกลำบากใจเพราะทำให้ครอบครัว คนดูแลต้องเดือดร้อนไปด้วย  

 

ณ ตอนนี้ ท่อนล่างของเขาไม่สามารถขยับได้ ต้องเข้าห้องน้ำวันละเป็นสิบๆ รอบ นั่งนานก็ไม่ได้ เป็นแผลกดทับ นอนนานก็ เหน็บกินทั้งขา จะยืนจะเดินก็อ่อนแรง จะกินเยอะก็ไม่ได้ เพราะถ้ากินเยอะ ก็เท่ากับว่าต้องเข้าห้องน้ำถี่ขึ้น ปัสสาวะเองก็ไม่ได้ ต้องสวนเข้าทางท่อปัสสาวะอย่างเดียว

 

จะทำอะไร ก็ไม่เหมือนคนปกติ นอกจากนี้สายตาที่คนอื่นมองก็แปลกๆ จะเดินทางไกลก็ลำบาก เรื่องห้องน้ำห้องท่า จะนอนก็ต้องพึ่งยานอนหลับ พอหลับก็เจอเหตุการณ์ซ้ำๆ กลางดึก ขาก็เหมือนมีไฟดูดตลอดเวลา ตื่นมาก็ไม่เคยสดชื่น เขาได้ทิ้งท้ายฝากเพื่อนๆ ว่า การขี่รถเก่งก็ไม่ได้ว่าไร แต่ระวังต้องทรมานแบบตน

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าวคมชัดลึกออนไลน์ ได้ติดต่อพูดคุยกับหนุ่มผู้โพสต์ชื่อนายชวนากร บุญใส หรือ นอยไดโว่ อายุ 24 ปี เปิดร้านตกแต่งบิ๊กไบค์ DaivoRacingShop แถวลาดพร้าววังหิน 34 ซึ่งได้เล่าเรื่องราวให้ทางเราฟังว่า เขาประสบอุบัติเหตุบิ๊กไบค์ล้มเมื่อ 1 ปี 6 เดือนที่แล้ว ซึ่งอาการก็หนักเอาการตามที่ได้โพสต์ไป 

 

ปัจจุบันอาการเริ่มดีขึ้น จากที่ท่อนล่างไม่รู้สึกอะไรเลย เมื่อกายภาพบำบัดเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เริ่มที่จะขยับได้บ้าง ช่วงเอว ช่วงน่อง แต่ยังต้องใช้ไม้เท้ายืนค้ำในการเดิน ส่วนข้อเท้ายังไม่สามารถขยับได้ ทำให้การเดินจะยังไม่ปกติ ต้องใช้ไม้ค้ำตลอด ซึ่งตอนนี้ก็พยายามกายภาพบำบัดทุกรูปแบบทั้งหัดยืน นั่ง หรือเดินในน้ำ ซึ่งเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างโอเคมาก ๆ 

 

ตนอยากเตือนเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบความเร็วว่า สำหรับใครที่ยังขับรถด้วยความเร็ว โลดโผนซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อยากจะบอกว่าขอให้ขับดีๆ อย่าประมาท อยากให้ดูกรณีของตนเองเป็นตัวอย่าง และเป็นเครื่องเตือนใจ ซึ่งตนยินดีที่จะเป็นกรณีศึกษา ให้กับเพื่อนๆ ที่ชอบสายความเร็ว หรือสายซิ่งขับขี่ให้ช้าลง ระมัดระวัง เพราะตนไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใคร เพราะมันนานมากๆ กว่าเราจะกลับมาเป็นปกติ 

 

ตนโชคดีที่ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่อาการก็หนักเอาการอยู่เหมือนกัน ผ่านมาปีกว่า ก็ยังคงต้องกายภาพบำบัดอยู่เลย และการขับขี่ด้วยความเร็วแล้วเกิดอุบัติเหตุ กับบางคนอาจจะไม่ได้โชคดีและมีชีวิตรอดเหมือนผม จึงอยากให้เอากรณีของตนเป็นอุทาหรณ์เตือนเพื่อนๆ ว่าอย่าประมาท เพราะไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ 

 

 

 

 

 

CR เฟซบุ๊ก Chavanakorn Boosai

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ