"ปลัด สธ." แถลงย้าย "หมอชาญชัย" มีมูลทุจริต ยันไม่มีกลั่นแกล้ง

วันที่ 9 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมคณะประกอบด้วย นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.อภิชาติ รอดสม สาธารณสุขนิเทศก์ที่ 6 นายเสมอ กาฬภักดี นิติกรชำนาญการพิเศษ

และ นางสาวสุชาฎา วรินทร์เวช นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันแถลงชี้แจงประเด็นร้อน กรณีมีคำสั่งย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น และ ตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี มารักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กรณี หมอชาญชัย ถูกตั้งกรรมการทั้งสืบข้อเท็จจริง จนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังมีบัตรสนเท่ห์กล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบในเรื่องรับเงินบริจาคบริษัทยา

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ยืนยันว่า นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ตือ เน้นความโปร่งใส โดยเฉพาะการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ ตามมติ ครม.ปี 2560 เมื่อมีกฎหมายออกมา จึงเรียกเงินรับไม่ได้เด็ดขาด หากรับมีความผิดตามกฎหมายอาญา และ มติของป.ป.ช.เป็นความร่วมมือกับบริษัทค้ายา ถ้าใครแจ้งเบาะเเสมา จะได้รับการพิจารณาตามความดีความชอบ เป็นสิ่งที่ สาธารณสุข ดำเนินการมาต่อเนื่อง

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนมาถึงเดือนตุลาคม 2562 จึงได้มีการพิจารณา ว่าบัตรสนเทห์มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ซึ่งก็แต่งตั้งตั้งแต่กรรมการตรวจสอบ ปลายตุลาคม 2562 ที่มี นายแพทย์ อภิชาติ รอดสม สาธารสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่6 เป็นประธานสอบข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลากว่า8เดือนในการสอบสวน มีการลงพื้นที่ไปคุยในรายละเอียด

อ่านข่าว :  จับพิรุธ..คำสั่งปลัด สธ. 2 ปี สั่งย้าย 2 ครั้ง "หมอชาญชัย"

นพ.อภิชาติ รอดสม ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุว่า กรณีการสอบสวนที่ผ่านมาทำตามกฎหมายทั้งหมด โดยเป็นไปตามกฎ กพ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 ข้อ 4 (1) (2) ว่า หากการร้องเรียนเป็นบัตรสนเท่ห์ที่ไม่มีการลงชื่อ แต่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ และ เป็นเบาะแสได้นั้น

สำหรับการสอบพยานบุคคล สอบพยานหลักฐาน มีพยานบุคคล มาให้การ มีการลงพื้นที่ขอนแก่น 2 รอบ ให้ผู้ถูกกกล่าวหามาชี้แจง กรรมการตรวจสอบได้รวบรวมหลักฐานจากพยานบุคคล เรื่องการรับเงินจากบริษัทยา พบว่า มีมูล ชัดเจน ทั้งจากพยานบุคคล พยานเอกสาร ที่ได้รับมา จึงต้องเสนอสิ่งที่มีมูลกล่าวหา ให้ผู้บังคับบัญชาให้ทราบ ยืนยัน ว่าไม่มีการกลั่นแกล้ง ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตามกฎระเบียบของทางราชการทุกประการ

นายเสมอ กาฬภักดี นิติกรชำนาญการพิเศษ ชี้แจงว่า การตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาว่ามีมูลจริงหรือไม่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลการสอบสวนได้ อาจจะมีมูล หรือ ไม่มีมีก็ได้ กฎระเบียบ กพ.เขียนไว้ แม้ไม่มีชื่อผู้ร้องเรียนก็สามารถตรวจสอบได้ จึงตัองไปตรวจสอบพยาน หลักฐาน ที่มี ซึ่งกรณีนี้มีมูลที่ควรกล่าวหา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีความผิด ยังต้องมีการตรวจสอบให้ชี้แจงโต้แยง สอบพยานหลักฐานบุคคล กระบวนการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ยังเปิดโอกาสให้ชี้แจง ยังลงโทษไม่ได้ แม้จะมีการพิจารณาโทษ แต่ผู้ถูกกล่าวหาก็ยังมีสิทธิ์ร้องเรียนต่อศาลได้

 สำหรับประธานตรวจสอบคนใหม่ได้รายชื่อประธานเรียบร้อยแล้ว