ตัวแทน "พารากอน-เมเจอร์ฯ" ให้ปากคำ ปมคู่จิ้นซีรี่ย์วายพบแฟนคลับฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันที่ 8 มิ.ย. 2563 เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตัวแทนผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน ในฐานะเจ้าของพื้นที่ และตัวแทนผู้บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้เช่าพื้นที่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อชี้แจงกรณีโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ทำกิจกรรมไลฟ์สดร่วมกับ ดาราหยิ่น-อานันท์ ว่อง และ วอร์-วนรันต์ รัศมีรัตน์ ทำให้มีแฟนคลับมารอพบที่หน้าโรงภาพยนตร์จำนวนมาก และทางผู้จัดไม่ได้กำหนดการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง หลังพบว่าอาจเข้าข่าย ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ล่าสุด พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ร่วมรับฟังการสอบปากคำ

โดย พล.ต.ท.ปิยะ เผยว่า การสอบปากคำโดยเฉพาะเมเจอร์ ซึ่งเป็นผู้จัด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้การควบคุมการจัดกิจกรรมต่างๆเป็นไปตามประกาศของ ศบค. และสถานการณ์ประเทศกำลังอยู่ในเงื่อนไขที่เป็นไปด้วยดี ดังนั้นกิจกรรมต่างๆจึงต้องอยู่ในกฎกติกา

อ่านข่าว สยามพารากอน ประกาศสั่งปิดเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ 3 วัน ไม่คุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัย

จากการสอบสวนเบื้องตน ได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และพบว่าผู้จัดไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในฉบับที่ 5 ข้อ 2(2) ห้ามผู้ใดจัดกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุม หรือติดต่อกันโดยง่าย ซึ่งจะต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตร ต้องมีสถานที่โล่งแจ้ง และต้องมีมาตรการป้องกันโรค ซึ่งผู้จัดกิจกรรมมีความบกพร่องในเรื่องนี้ ดังนั้นจึงต้องมีผู้รับผิดชอบความผิด ส่วนจะมีผู้ใดผิดบ้างยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งเมเจอร์ฯ จะผิดด้วยหรือไม่นั้น ก็จะต้องดูว่าผู้ใดเป็นคนจัดกิจกรรม เพราะกรณีนี้ถือว่าผู้จัดกิจกรรมมีความผิดแน่นอน

และในการสอบปากคำ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เบื้องต้นให้ข้อมูลว่า เมเจอร์ฯไม่ได้แจ้งกับทางพารากอน ไม่ได้แจ้งกับสำนักงานเขต และไม่ได้แจ้งกับตำรวจในพื้นที่ ส่วนเมเจอร์ฯได้มีการแจ้งไปทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าจะมีการจัดกิจกรรมภายในโรงภาพยนตร์ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าการมีดารามาจะส่งผลต่อการรวมกลุ่มกัน ซึ่งจะต้องสอบสวนให้ชัดว่าช่วงเวลาไหนมีการปฏิบัติไม่ครบถ้วน เพราะเหตุเกิดในหลายช่วงเวลา ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงกลางคืน

และต้องสอบด้วยว่าเป็นการเชิญชวนโดยตรงหรือไม่ เพราะเมื่อเป็นการแจ้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์จะต้องทราบว่าจะมีการมารวมกลุ่มของคน ซึ่งก็จะต้องมีการควบคุมปฏิบัติตามมาตรการ ทั้งนี้ดารายังไม่มีความผิด เพราะกฎหมายเอาผิดผู้จัดกิจกรรมเป็นหลัก ทั้งนี้จะเรียดดารานักแสดงที่มาร่วมกิจกรรมในวันนั้นมาสอบปากคำด้วยหรือไม่นั้น ยังคงต้องร่วมรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน หากพบว่าความผิดก็จะดำเนินการสอบปากคำด้วยเช่นกัน

พร้อมยืนยัน ตำรวจไม่กังวลในเรื่องการดำเนินคดี แต่เตือนไปยังศูนย์การค้า หรือสถานที่จัดกิจกรรมต่างทั่วประเทศ ขอให้คำนึงถึงข้อห้ามตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขด้วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ

สำหรับความผิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในข้อหารวมตัวจัดกิจกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ