ข่าว

ตร.ภาค4รวบแก๊งมาเฟียไต้หวันหลอกเหยื่อโอนเงิน

ตร.ภาค4รวบแก๊งมาเฟียไต้หวันหลอกเหยื่อโอนเงิน

31 ธ.ค. 2552

รวบขบวนการมาเฟียไต้หวัน ตั้งแก๊งฉ้อโกงหลอกเหยื่อโลภมากโอนเงินเข้าบัญชี ผ่านกระบวนการทางโทรศัพท์ที่มีศูนย์ call center ที่เปิดทำการอยู่ในประเทศเวียดนาม และจีน หญิงไทยน้ำตาร่วง เผยถูกบังคับให้ทำ ย้ำหากไม่ทำตามถูกตัดแขนตัดขา

 เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 31 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ปัญญา  มาเม่น รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยพล.ต.ต.จตุพล  ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ยรรยง  เวชโอสถ ผกก.สส.1บก.สส.ภ.4 และพ.ต.ท.ณัฐนนท์  ประชุม รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางดลวรรณ  เฉิน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 ม.4 ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด จ.เชียงราย MR. SHEN  HSIEN-CHI อายุ 49 ปี  MR.CHEN YU CHIA อายุ 45 ปี และMR.CHOU NIEN KAI อายุ 36 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมของกลาง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวน 20 เล่ม  บัตรเอทีเอ็ม 16 ใบ เอกสารของผู้เปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม  สมุดบันทึกผู้เปิดบัญชีธนาคาร และเงินสด จำนวน 124,000 บาท

 พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า ตามที่ตำรวจประจำ บก.สส.ภ.4 สืบทราบว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นชาวไต้หวัน พร้อมด้วยคนไทยจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมก่อเหตุกันเป็นกระบวนการโทรศัพท์หลอกลวงคนไทย ให้ทำธุรกรรมด้านการเงิน ผ่านทางบัตรเอทีเอ็ม โดยอ้างเหตุผลต่างๆ ทั้งหลอกลวงว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรเครดิตถูปลอมแปลง หรือถูกรางวัลต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีการหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินของผู้เสียหานเองผ่านทางบัตรเอทีเอ็ม ให้กับผู้ต้องหา

 ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบทราบว่ามีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมหลอกลวง เข้ามาพักอยู่ที่ ร.ร.โรมา ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น  เพื่อมาว่าจ้างให้คนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เปิดสุดบัญชีธนาคาร  เพื่อนำไปใช้ในการโอนเงินของผู้เสียหายเข้าบัญชีธนาคารของกลุ่มพวกตน

 กระทั่งพบชายต้องสงสัยมีลักษณะเป็นชายเชื้อชาติจีน และหญิงไทย เดินออกมาจากโรงแรมโรมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้นทราบชื่อภายหลังคือ นางดลวรรณ  และ เฉิน เชี่ยน จี (MR. SHEN  HSIEN-CHI) ซึ่งทั้งคู่เป็น สามีภรรยากัน ซึ่งจากการตรวจค้นทั้งคู่พบของกลาง เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวนมาก จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

 จากการสอบสวนคือ นางดลวรรณ  และ เฉิน เชี่ยน จี ทราบว่า กลับมาจากรับสมุดบัญชีธนาคารจาก น.ส.เอ๋ ไม่ทราบชื่อสกุล เพื่อนำสมุดบัญชีไปส่งมอบให้กับพวกชาวไต้หวัน ให้มารับสมุดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปเป็นบัญชีธนาคาร ที่ใช้ในการโอนเงินของผู้เสียหายที่ได้จากการหลอกลวงเหยื่อ ให้โอนเงินมาให้ ผ่านทางตู้เอทีเอ็ม และกลุ่มไต้หวัน ก็จะเลือกเวลาใกล้ปิดธนาคาร เพื่อไม่ให้เหยื่อสงสัย

 กลุ่มที่ร่วมกระบวนการต้มตุ๋น มี นายตู้ ฮาว หยู (MR.TU HAO-YU)  นายห้วง เส้า ชุน (MR.HUANG SHAO-CHUN) นายเฉิน หยู เจีย (MR.CHAEN YU CHIA)  และนายโจว เหนียน ไข่ (MR.CHOU NIEN-KAI) โดยทั้ง 4 คนเป็นคนมารับสมุดบัญชีธนาคารต่อจาก นางดลวรรณ  และ เฉิน เชี่ยน จี เพื่อนำไปใช้โอนเงินจากการที่กลุ่มคนร้ายโทรศัพท์หลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินผ่านทาง เอทีเอ็ม และใช้ถอนเงินด้วยบัตรเอทีเอ็ม  ที่ไปจ้างวานให้ชาวบ้านทั่วไปเปิดสมุดบัญชี ซึ่งจะให้ค่าจ้างเปิดเล่มละ 1,500 บาท และให้เงินไปเปิดบัญชีอีก 800 บาท ซึ่งจะใช้ในการหลอกเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชี แล้วถอนเงินออกจากบัญชี ด้วยบัตรเอทีเอ็ม ที่เปิดพร้อมสมุดบัญชีธนาคาร และจำนวนเงินบางส่วนจะโอนเงินระหว่างประเทศไปยังศูนย์ call center ที่เปิดทำการอยู่ในประเทศเวียดนาม และจีน

 ในระหว่างนั้นได้มีโทรศัพท์จากนายเฉิน หยู เจีย และนายโจว เหนียน ไข่ โทรศัพท์เข้ามาสั่งสมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตร เอทีเอ็ม จากนางดลวรรณ  และ เฉิน เชี่ยน จี  จำนวน 20 เล่ม ในราคาเล่มละ 9,000 บาท รวม 180,000 บาท โดยนัดส่งมอบกันที่ลาดจอดรถโพไซดอน ถนนรัชดาภิเษก ซอย 17 เขตดินแดง กรุงเทพฯ เข้าหน้าที่จึงให้นางดลวรรณ  และ เฉิน เชี่ยน จี นำสมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็มไปส่งมอบตามจุดนัดหมาย

 จนสามารถจับกุมนายเฉิน หยู เจีย และนายโจว เหนียน ไข่ ได้ขณะเข้ามารับสมุดบัญชี และจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมสมคบกันเพื่อเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้เสียหาย ที่หลงเชื่อจากโทรศัพท์หลอกลวงให้โอนเงินให้ทางตู้ เอทีเอ็ม  จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปตรวจค้นภายในห้องพักหมายเลข 32 ต้นออเพลช เลขที่ 62/2 ซอยเจริญศักดิ์ ถ.สุทธิสารวินิฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นพบของกลาง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม เอกสารของผู้เปิดบัญชีธนาคาร  สมุดบันทึกผู้เปิดบัญชีธนาคาร และเงินสด จำนวน 124,000 บาท ซึ่งจากการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 50 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อฉ้อโกงประชาชน

 นางดลวรรณ กว่าวว่า ตนแต่งงานกับนายเฉิน เชี่ยน จี และทำธุรกิจ เปิดร้านนวดแผนไทย อยู่ที่ประเทศไต้หวัน จากนั้นได้มีมาเฟียไต้หวันขู่บังคับให้ตนเข้าร่วมขบวนการ ซึ่งหากไม่ทำจะถูกตัดแขนตัดขา และยังมีคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานที่ไต้หวันอีกจำนวนหนึ่งก็ถูกบังคับเช่นเดียวกันกับตน ขณะที่ตนเดินทางมาประเทศไทยได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ก็เคยเข้าไปร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร เพราะตนไม่ต้องการที่จะทำอาชีพนี้  แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่สนใจ ซึ่งขบวนการนี้ ถือว่าเป็นขบวนการใหญ่มาก  และที่ประเทศเวียดนาม และจีน จะมีคนที่ทำหน้าที่อยู่ในศูนย์ call center ที่ละ 8 คน คอยโทรศัพท์หลอกเหยื่อ

 “ที่ชาวไต้หวันเลือกหลอกลวงเหยื่อในประเทศไทย ก็เพราะเห็นว่าคนไทยโลภมาก อยากได้ จึงต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้  และคนไทยที่อยู่ที่ไต้หวันเอง ก็ถูกกลุ่มอิทธิพล หรือมาเฟียในประเทศไต้หวัน กดขี่บังคับขมขู่ หากไม่ทำตามก็จะถูกตัดมือตัดขา ตนจึงต้องจำใจทำ” นางดลวรรณ กล่าวทั้งน้ำตา