นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ เรียกร้อง ประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนการบังคับใช้กฎหมายพิเศษและกำลังทหาร ในพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ
เมื่อวันศุกร์ที่(5 มิ.ย.) มูเรียล โบว์เซอร์ (Muriel Bowser) นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "ถอนการบังคับใช้กฎหมายพิเศษและกำลังทหาร" ในพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ หลังทรัมป์ส่งกองกำลังเข้าปราบปรามการประท้วงอันมีต้นตอมาจากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd)
โบว์เซอร์ ซึ่งเป็นนักการเมืองชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา สังกัดพรรคเดโมแครต ระบุในเอกสารว่า เธอได้ยุติคำสั่งภาวะฉุกเฉินในเขตที่มีการประท้วงกรณีการเสียชีวิตของฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจผิวขาวจับกุมในมินนิแอโพลิสเมื่อสัปดาห์ก่อน
นายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า การประท้วงในเมืองหลวงนั้นเป็นไปอย่าง "สันติ" และสำนักตำรวจวอชิงตัน ดี.ซี. "ไม่ได้จับกุมผู้ประท้วงแม้แต่คนเดียว" เป็นเวลา 2 คืนติดต่อกัน เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี(4 มิ.ย.)
โบวเซอร์กล่าวถึงทรัมป์ในเอกสารข้างต้นว่า "ฉันยังคงกังวลว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางที่ไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งกำลังลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางที่ปรากฎตัวพร้อมอาวุธยิ่งเป็นการจุดกระแสการประท้วงและเพิ่มความคับข้องใจของผู้ที่ร่วมประท้วงอย่างสันติ เพื่อเป้าหมายเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปการเหยียดเชื้อชาติ รวมถึงระบอบอันแตกสลายที่กำลังเข่นฆ่าชาวอเมริกันผิวดำ"
ทรัมป์ ซึ่งขู่ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและกว้างขวางจากเจ้าหน้าที่ทั้งในอดีตและปัจจุบัน กล่าวเมื่อวันศุกร์(5 มิ.ย.) ว่า แผนรับมือต่อแนวคิดเหยียดเชื้อชาติในประเทศของเขาคือการสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสำหรับชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา
ในการแถลงข่าวที่โรส การ์เดน (Rose Garden) ของทำเนียบขาว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังอ้างถึงอัตราว่างงานในเดือนพฤษภาคมที่ลดลงอย่างไม่คาดคิด พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งเป็น "สิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดที่สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ" เช่นเดียวกับชนกลุ่มน้อย ซึ่งรวมถึงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา
Cr. xinhuathai / @MayorBowser
ข่าวที่เกี่ยวข้อง