เหตุการณ์เด่นประจำปี2552รอบโลก | คมชัดลึก

 ข่าวใหญ่ประจำปี 2552 เห็นจะไม่มีข่าวไหนเกินข่าวการเสียชีวิตแบบกะทันหันของ ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป๊อป ด้วยวัยเพียง 50 ปีเท่านั้น เพราะคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ต่างรู้จักเจ้าของท่าเต้นลูบเป้า หรือ "มูนวอล์กเกอร์" กันทั้งนั้น

 ไมเคิลนั้นติดยานอนหลับมานานแล้ว และใช้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดก็ต้องมาเสียชีวิตเพราะได้รับยานอนหลับที่แพทย์ประจำตัวเป็นคนจ่ายให้เกินขนาด ทั้งๆ ที่อีกไม่กี่วันไมเคิลก็จะขึ้นเวทีแสดงคอนเสิร์ต "ดีส อีส อิท" ในลอนดอนถึง 50 รอบ ซึ่งไมเคิลวาดหวังเอาไว้ว่าจะทำให้เขากลับมาครองความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ชีวิตต้องอับเฉาเพราะถูกดำเนินคดีเรื่องล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หรือพฤติกรรมเพี้ยนๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
 
โอบามาสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง

 ไม่ใช่คนอเมริกันเท่านั้นที่ลุ้นให้ บารัก โอบามา ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐ และเมื่อโอบามาได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐสมใจแล้ว พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เลยกลายเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับการจับตามองจากชาวโลกมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง สถานีโทรทัศน์แทบทุกหัวระแหง รวมถึงในไทย ต่างพากันถ่ายทอดสดเหตุการณ์นี้ ไม่นับรวมพวกที่ลงทุนเดินทางไปเข้าร่วมพิธีในกรุงวอชิงตันท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บอีกร่วมๆ 2 ล้านคน

 นอกจากโอบามาจะเป็นผู้นำผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์แล้ว พิธีสาบานตนของเขาก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดกับประธานาธิบดีสหรัฐคนไหนมาก่อนด้วย นั่นคือ นายจอห์น โรเบิร์ต ประธานศาลฎีกาซึ่งมีหน้าที่กล่าวนำคำสาบานเกิดกล่าวผิด ตกคำว่า "faithfully" หรือ "อย่างซื่อสัตย์" ไป ทำให้ต้องมีพิธีสาบานตนซ้ำอีกครั้งที่ทำเนียบขาวในวันรุ่งขึ้นเพราะเกรงกันว่าปฏิปักษ์ทางการเมืองอาจจะเอาเรื่องนี้มาอ้างว่าโอบามาไม่ได้เป็นประธานาธิบดีอย่างถูกต้องตามคำหมาย เพราะกล่าวคำสาบานไม่ถูกต้อง จึงต้องป้องกันเอาไว้ก่อนเพื่อความชัวร์

แอลดีพีพ่ายการเลือกตั้งครั้งแรก

 พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ไม่ได้เป็นแค่พรรคการเมืองธรรมดาๆ ในญี่ปุ่น แต่ต้องเรียกว่าเป็นสถาบันทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยความที่ผูกขาดการเป็นรัฐบาลมายาวนานกว่า 50 ปี การที่แอลดีพีซึ่งเผชิญเรื่องอื้อฉาวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา พ่ายการเลือกตั้งทั่วไปให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ญี่ปุ่น (ดีพีเจ) กลายเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินในแดนซามูไร นักการเมืองสายเลือดใหม่พากันตบเท้าเข้ามาบริหารประเทศแทนที่นักการเมืองวัย 70-80 ปีที่เห็นกันชินตา

 ทว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มาพร้อมกับความไม่แน่นอน เพราะพรรคดีพีเจ ซึ่งนำโดยนายยูกิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ อ่อนด้อยประสบการณ์ในการเป็นรัฐบาล ด้วยความที่แอลดีพีผูกขาดมาโดยตลอด ทำให้คนไม่ค่อยจะไว้วางใจในตัวนายฮาโตยามะ ว่าจะนำรัฐนาวานี้เดินหน้าไปหนไหน

ศรีลังกาถอนรากถอนโคนพยัคฆ์ทมิฬ

 กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมที่ทำสงครามแบ่งแยกดินแดนในศรีลังกามานานกว่า 25 ปี ต้องถึงกาลล่มสลายเอาในปี 2552 นี้เอง เมื่อรัฐบาลศรีลังกาสามารถปลิดชีพนายเวฬุพิลัย ประภาการัน ผู้นำพยัคฆ์ทมิฬ ได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม แต่ถึงแม้จะบดขยี้กลุ่มกบฏที่เป็นหอกข้างแคร่มาโดยตลอดลงได้แล้ว ศรีลังกายังอยู่ห่างไกลจากคำว่าสันติภาพ แถมยังต้องเผชิญกับเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้มีการตรวจสอบในเรื่องที่ว่า ทำไมพลเรือนถึงได้เสียชีวิตในการทำสงคราบปราบกบฏพยัคฆ์ทมิฬมากเสียเหลือเกิน

ไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดทั่วโลก

 โรคธรรมดาสามัญอย่างไข้หวัดกลายเป็นมฤตยูพล่าผลาญชีวิตชาวโลกครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดสเปนที่คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 20-50 ล้านคนทั่วโลกในปี 2461 จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเชื้อโรคระบาดที่รุนแรง และน่ากลัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ตามมาด้วยไข้หวัดนกที่ทำให้คนพากันหวาดผวา ไม่กล้ากินสัตว์ปีกกันไปพักใหญ่

 พอมาในปี 2552 นี้ ก็เกิดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า ไข้หวัด 2009 ขึ้นมาอีก โดยมีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเม็กซิโก ก่อนจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้แฟชั่นหน้ากากอนามัยกลับมาฮิตอีกครั้ง รวมไปถึงธุรกิจการทำเจลล้างมือขาย

 องค์การอนามัยโลกประกาศว่า นับถึงวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 ทั่วโลกนั้นอยู่ที่กว่า 11,500 คน นับตั้งแต่เริ่มระบาดในเดือนเมษายน ส่วนจุดที่มีการแพร่ระบาดนั้นอยู่ที่ 208 ประเทศและดินแดน

จลาจลนองเลือดซินเจียง

 ปัญหาชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตกของจีน มีมานานแล้ว แต่ปีนี้ความขัดแย้งปะทุรุนแรงถึงขั้นเกิดการจลาจลนองเลือดที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 197 ศพ

 เหตุการณ์รุนแรงครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นเมื่อชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ในซินเจียง แต่กลับต้องถูกชาวฮั่นหรือคนเชื้อสายจีนกดขี่ข่มเหงมาตลอดเกิดทนไม่ไหว พากันลุกฮือขึ้นทุบทำลายข้าวของ ปล้นสะดมร้านค้า และเผารถยนต์ในเมืองอูรุมชี เมืองเอกของซินเจียง ทำให้ทางการจีนส่งทหารเข้าปราบ มีผู้เสียชีวิตร่วม 200 คน ถือเป็นการจลาจลของชนกลุ่มน้อยในจีนครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีเลยทีเดียว

 ทางการจีนประณามว่า "สภาอุยกูร์โลก" ภายใต้การนำของนางเรบิยา คะเดียร์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ แต่ทางกลุ่มโต้ว่า ชาวอุยกูร์ชุมนุมประท้วงกันอย่างสงบ แต่ตำรวจจีนต่างหากที่เปิดฉากยิงใส่พวกตนก่อนจึงทำให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นเหตุนองเลือด

ประท้วงผลเลือกตั้งอิหร่านนองเลือด

 มาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านแบบถล่มทลายท่ามกลางข้อครหาจากคู่แข่งว่า โกงการเลือกตั้ง แถมพรรคฝ่ายค้านยังเกณฑ์คนออกมาก่อหวอดประท้วงบนท้องถนนในกรุงเตหะรานยืดเยื้อยาวนานร่วมหนึ่งสัปดาห์ จนนำไปสู่การปราบปรามนองเลือดที่ยอดผู้เสียชีวิตไม่ชัดเจน แต่ประเมินว่าน่าสูงเกือบๆ 150 คน

 การประท้วงใหญ่แบบนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในประเทศที่ค่อนข้างปิดอย่างอิหร่าน

แบร์ลุสโคนีถูกปาหน้าแหก

 ปี 2552 ต้องเรียกได้ว่าเป็นปีแห่งความซวยของ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีผู้มีสีสันจัดจ้านของอิตาลี เพราะนอกจากจะถูกเมียฟ้องหย่า ถูกแฉเรื่องความสำส่อนทางเพศ ถูกเพิกถอนสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองจากการดำเนินคดีในข้อหาคอรัปชั่น และถูกกล่าวหาว่ามีเอี่ยวกับพวกมาเฟียแล้ว

 แบร์ลุสโคนียังซวยส่งท้ายปีด้วยการถูกชายโรคจิตเอารูปหล่อมหาวิหารมิลาน ซึ่งหนักไม่ใช่เล่น ขวางใส่หน้าจนเลือดกบปาก ดั้งจมูกแตก ฟันหน้าหัก 2 ซี่ ต้องนอนแบ่บอยู่ในโรงพยาบาล 5 วัน แถมยังต้องพักฟื้นอยู่ที่บ้านต่ออีก 2 สัปดาห์

 แต่โชคร้ายก็กลับกลายเป็นโชคดีเพราะการเจ็บตัวครั้งนี้กลับทำให้คะแนนนิยมของแบร์ลุสโคนี ซึ่งดิ่งวูบเพราะข่าวมั่วผู้หญิง (ที่บางคนอ่อนคราวลูก) กลับกระเตื้องขึ้นมาอีกครั้งเพราะไม่ว่าใครเห็นภาพข่าวที่ออกมาก็ต้องเทคะแนนสงสารให้

 นอกจากนี้ โรลลิง สโตน นิตยสารดนตรีชั้นนำของโลก ยังมอบตำแหน่ง "ร็อกสตาร์ประจำปี" ให้แบร์ลุสโคนีอีก เพราะมองว่าพฤติกรรมเหลวแหลกแบบนี้นี่ช่างคล้ายคลึงกับพวกดาวร็อก ซึ่งชอบพี้ยา มั่วผู้หญิง และโชว์พฤติกรรมแย่ๆ เป็นที่สุด