เพื่อนลูกสุดแสบ หลอกโกงเงินในบัญชี "เราไม่ทิ้งกัน" ของสองลุงป้า

นายอาวุธ เชษฐบุตร อายุ 43 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 161/219 หมู่ที่ 21 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำหลักฐานเป็นสำเนารายการเดินบัญชี หรือ สเตรทเม้น ธนาคารกรุงเทพของตนเอง ที่ใช้ประกอบการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลในโครง “เราไม่ทิ้งกัน” และบัตรเอทีเอ็มที่อยู่ในสภาพชำรุด มาร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังจากถูกมิจฉาชีพซึ่งเป็นเพื่อนของลูกชาย นำเอาข้อมูลในเอกสารที่ตนเองใช้ในการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ไปใช้ในการโอนเอาเงิน จำนวน  5,000 บาท จากบัญชีไปของนายอาวุธ ไปใช้ ก่อนที่นายอาวุธจะมาทราบภายหลังว่าเงินได้หายไปจากบัญชี

นายอาวุธ กล่าวว่า ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลได้เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือเยียวยาในโครงการเราไม่ทิ้งกัน ตนเองก็ได้ทำการลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินจากโครงการนี้ด้วย แต่เมื่อลงทะเบียนไปแล้วก็พบปัญหาต่างๆ เช่น การตรวจสอบสถานะ และข้อมูลบางอย่างไม่ถูกต้อง แม้จะพยายามแก้ไขแล้วก็ยังไม่ผ่านและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะตนเองก็ไม่มีความรู้ กระทั้งหลายวันต่อมาก็มีเพื่อนของลูกชาย ชื่อนายต้น ซึ่งเคยมาเล่นกับลูกชายเป็นประจำก่อนที่ลูกชายตนเองจะไปทำงานที่อื่น มาอาสาว่าจะช่วยทำให้ ด้วยความที่ตนเองต้องการที่จะได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว จึงได้ให้นายต้น ทำการลงทะเบียนให้ ซึ่งในการลงทะเบียนนายต้นได้ขอดูเอกสารและข้อมูลหลายอย่าง เช่น ข้อมูลในสมุดบัญชีธนาคาร บัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม รวมทั้งรหัสกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มด้วย โดยนายต้นอ้างว่าจะใช้ในการลงทะเบียนให้ ซึ่งทุกอย่างก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ต่อมา หลังจากที่นายต้นลงทะเบียนให้สำเร็จ ต่อมาในวันที่ 7 พ.ค. 2563 ก็มีเงินจำนวน 10,000 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง แต่ในวันเดียวกันก็พบว่า เงินได้หายไปจากบัญชีครั้งแรก จำนวน 100 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 900 บาท และครั้งที่ 3 จำนวน 4,000 บาท ซึ่งตนเองมาทราบว่าเงินหายไปหลังจากที่นำสมุดบัญชีไปเบิกเงินที่ธนาคาร ก็ถึงกับตกใจ เพราะไม่เคยกดเงินออกมาใช้ และบัตรเอทีเอ็มของตนเองก็ถูกสุนัขกัดจนเสียหาย จึงได้สอบถามกับทางธนาคารว่า เงินจำนวน 5,000 บาท หายไปได้อย่างไร จึงได้ทราบว่า เงินที่หายไปนั้นถูกโอนไปยังบัญชีอิเล็กทรอนิกที่เป็นหมายเลขโทรศัพท์หมายเลขหนึ่ง ตนเองจึงได้นำหมายเลขมาตรวจสอบดู ก็พบว่า หมายเลขดังกล่าวเป็นเบอร์โทรศัพท์ของนายต้น เพื่อนของลูกชายที่เป็นคนลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือเยียวยาโครงการเราไม่ทิ้งกันให้ ตนเองจึงรีบกดเงินที่เหลืออยู่ในบัญชี จำนวน 5,000 บาท ออกมาไว้

    นายอาวุธ กล่าวอีกว่า หลังจากทราบเรื่องตนเองก็ได้พยายามติดต่อไปยังนายต้น เพื่อสอบถามเรื่องนี้ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่านายต้น ซึ่งเป็นคนหน้าตาดีและเคยมาสนิทสนมกับลูกชายตนเองจะทำแบบนี้ได้ เพราะลำพังครอบครัวของตนเองก็มีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำอยู่แล้ว เงินที่ได้จากรัฐบาลก็หวังว่าจะมาใช้จุนเจือครอบครัวในช่วงสถานการณ์โควิด แต่ก็มาถูกโกงไป และที่ตนเองกังวลมากขณะนี้ก็คือกลัวว่า หากเดือนที่จะถึงนี้รัฐบาลโอนเงิน จำนวน 5,000 บาท เข้าบัญชีให้ จะถูกมิจฉาชีพทำการโอนไปใช้อีกหรือไม่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือในเรื่องการเปลี่ยนแปลงบัญชี เพราะตนเองไม่มีความรู้เรื่องนี้และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวนายต้นมาสอบสวน เพราะเชื่อว่านายต้น อาจจะไปหลอกลวงชาวบ้านคนอื่นๆ ด้วยวิธีนี้เช่นกัน

นิติกรณ์ ฝางมาลา ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น