อุทาหรณ์ อันตรายถึงชีวิตจากการกลืนเมล็ดกระท้อน

นพ.จิรัชย์ จิรธรรมโอภาส โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา โพสต์เคสการรักษา กรณีคนไข้ที่กลืนเมล็ดกระท้อนเข้าไป ปรากฏว่าเขาต้องใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิมเป็นเวลานานกว่าครึ่งปีเลยทีเดียว 

 

คุณหมอเล่าว่า กลางดึก ตนได้รับเคสที่เป็นโรคที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ "เมล็ดกระท้อนตำไส้ทะลุ"
โรคนี้เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูนี้ เนื่องจากผู้สูงอายุไม่มีฟัน เวลากินกระท้อน ชอบดูดเมล็ด ดูดเพลิน ๆ เมล็ดหลุดลงคอ เนื่องจาก Reflex ของร่างกาย หรือความอร่อยเกินเหตุ

 

ถ้าเป็นเมล็ดผลไม้อื่นคงไม่มีปัญหา แต่เมล็ดกระท้อนเจ้ากรรม ดันเรียว หัวแหลม ท้ายแหลม ชอบไปกองในใส่และทิ่มทะลุไส้แตกประจำ

 

การที่ "เมล็ดกระท้อนตำไส้ทะลุ" เมื่อคนไข้มาถึง รพ. ส่วนใหญ่ อาการมักจะรุนแรง ต้องให้ยากระตุ้น บางรายอาจจะไปไม่ถึงเตียงผ่าตัด

 

แต่ถ้ารอดถึงห้องผ่าตัด คนไข้ต้องมีแผลผ่าตัดยาวกลางท้อง เพราะตัดไส้ที่แตกออก และต้องยกทวารเทียม แผลผ่าตัดไม่สามารถเย็บปิดได้ เพราะมีโอกาสติดเชื้อสูง ต้องทำแผลทุกวัน เช้า-เย็น เป็นเวลาสัปดาห์กว่าจะเย็บปิดได้
 

นอกจากนี้ จากการที่กลืนเมล็ดกระท้อน หลังผ่าตัด ต้องนอนโดยใช้ท่อช่วยหายใจด้วย โดยทีมบุคลากรทางการแพทย์ต้องเฝ้าไข้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งพยาบาลจะต้องโทรรายงานเกือบทุกชั่วโมง แถมคนไข้ จะมีรูพรุนจากการเจาะเลือด และปรับยาจนกว่าการติดเชื้อจะดีขึ้น โดยหวังว่าคนไข้มีสัญญาณชีพปกติ

 

ถ้ารอดกลับบ้านไป คนไข้ต้องอยู่กับการถ่ายทางหน้าท้องอย่างน้อย 6 เดือน แล้วต้องกลับมาเจ็บตัวอีกรอบ เพื่อผ่าตัดปิดทวารเทียม โชคดีก็ผ่าส่องกล้อง หนักหน่อยก็เปิดแผลยาวประมาณเดิม เข้าไปลุ้นว่าผังผืดจะเยอะแค่ไหน? เลาะลำไส้ แล้วต่อปิดท้องมารอลุ้นว่าจะรั่วหรือเปล่า? รอดรอบแรก ตายรอบสองก็มี

 

ถ้าไม่ผ่า คนไข้ก้อต้องมีทวารเทียม ถ่ายทางหน้าท้องตลอดชีวิต ถ้าท่านๆ รักบรรพบุรุษอย่าซื้อกระท้อนให้กิน ถ้าจะให้กินควักเมล็ดออก 

คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก Jirat Jiratham-opas