อุดช่องโหว่ "ก้าวไกล" ชงตั้ง "กรรมการธรรมาภิบาลข้อมูล" | คมชัดลึก

 

วันที่ 28 พ.ค. 2563 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีนักวิจัยด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ พบข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมหาศาลกว่า 8,300 ล้านรายการบนโลกออนไลน์แบบไม่มีการเข้ารหัส ก่อนจะดำเนินการแก้ไขในเวลาต่อมา ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 แต่ได้กำหนดให้หมวดที่สำคัญซึ่งเกี่ยวกับเนื้อหา "การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการกำหนดโทษกรณีที่มีการละเมิดกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ในปีถัดไปนับแต่ประกาศ" โดยกฎหมายทั้งฉบับจะมีผลใช้บังคับอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 แต่ถูกการกำหนดให้ใช้บังคับช้าออกไปนั่นเอง 

 

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ภายหลังจากประกาศเลื่อนบังคับใช้กฎหมายนี้ไม่กี่วัน เกิดเหตุการณ์ประชาชนได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือในลักษณะที่เรียกว่า "สแปม" เป็นข้อความโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งทางผู้ให้บริการได้ออกมาแถลงยอมรับว่ามีข้อมูลรั่วไหลออกมาจริง ข้อมูลชุดดังกล่าวที่พบเป็นข้อมูลจากฐานข้อมูลของบริษัทเอไอเอส แม้บริษัทจะแจ้งว่าไม่ใช่ข้อมูลที่สร้างความเสียหาย แต่ข้อมูลที่หลุดมาถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล เพราะสามารถระบุอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ นับว่าเป็นการระบุตัวตนในทางอ้อม

 

หากย้อนไปในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด อาจเกี่ยวกับมติ ครม.ที่เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบางหมวดออกไป 1 ปี เสมือนเป็นความบังเอิญที่ทำให้ค่ายมือถือรอดพ้นไม่ถูกเอาผิดตามกฎหมายหรือไม่ พรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะติดตามกรณีนี้ต่อไป

 

ขณะที่นาย ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เห็นด้วยกับรัฐในการแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคในระลอกที่ 2 แต่การกระทำดังกล่าวต้องอยู่บนพื้นฐานสำคัญ คือ รัฐจะต้องไม่ละเมิดข้อมูลของประชาชน และวิธีคิดการออกแบบแอพพลิเคชั่นต้องออกแบบมาเพื่อไม่เป็นการละเมิดหรือเพื่อควบคุมพฤติกรรมประชาชน ต้องมีความโปร่งใสเมื่อได้ถือข้อมูลลักษณะนี้ของประชาชนแล้ว มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้ง คณะกรรมการธรรมาภิบาลข้อมูล ที่ประกอบด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคประชาสังคม หรือแม้แต่ฝ่ายค้าน เพื่อให้ทำหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบการใช้ข้อมูลเหล่านี้