ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุกตลอดชีวิต "อ๊อฟ" คดี น้องหญิงตกรถเทรลเลอร์

วันนี้  (15 พ.ค.) ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค1 ในคดีที่ นายสุรพล ดาราคำ หรือ อ๊อฟ  กับพวกรวม 2 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐาน หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายและฆ่าผู้อื่น 

จากกรณี เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ก.ค.2561 น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช อายุ 19 ปี เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา หลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสุรพล ดาราคำ เป็นผู้ขับรถเทรลเลอร์พาไปส่งบ้าน พร้อมระบุระหว่างทางน้องหญิงกระโดดลงจากรถจนเสียชีวิต แต่ญาติไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ สงสัยเป็นการฆาตกรรม จึงร้องเรียนขอความเป็นธรรม

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง นาย สุรพล จำเลยที่ 1 กับพวก แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 ไว้ ระหว่างรอยื่นอุทธรณ์จำเลยยื่นประกันตัวต่อสู้คดี วันนี้จำเลยเดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

ศาลอุทธรณ์ภาค1 ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาแก้เป็นว่า

จำเลยที่ 1 มีความผิด ฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
 

คดีของน้องหญิง ถูกเปิดเผยจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Baifern Pns"  โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือเนื่องจาก น้องหญิง ซึ่งเป็น น้องสาวของเจ้าของเฟซบุ๊ก เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา โดยมีข้อความผ่านการแชทไลน์ ระบุว่า น้องหญิง อยู่กับผู้ชายชื่อ ออฟ หรือ นายสุรพล ดาราคำ เป็นคนขับรถเทรลเลอร์  ซึ่งเขาอ้างว่า น้องหญิง กระโดดลงมาจากรถ จนเป็นเหตุเสียชีวิต

 

                                                 

 

                                                   

 

ย้อนไปคืนวันที่ 19 ก.ค 61  น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช อายุ 19 ปี หรือ น้องหญิง ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  โดยมีเพื่อนชื่อ เป็ด และแฟนหนุ่ม ชื่อท็อป และน้องชาย คือนายอ๊อฟ  มารับน้องหญิง  มีผู้ชายอีก 3 คน มานั่งร่วมโต๊ะ ต่อมา  เวลาประมาณ 04.00 น. เป็ด บอกให้ น้องหญิง กลับบ้านไปกับ นายอ๊อฟ แต่น้องหญิง ไม่กล้ากลับด้วย เนื่องจากขณะที่นั่งอยู่ในสถานบันเทิง ถูกนายอ๊อฟ ลูบที่บริเวณขา 

น้องหญิง จึงโทรไปหา เพื่อนรุ่นพี่ ชื่อ พี่รุ้ง   โดย เป็ด รับปากว่าจะให้น้องหญิง นั่งแท็กซี่กลับ แต่เมื่อนั่งรถกระบะมาถึงปั๊มน้ำมัน เป็ด กลับบอกให้ น้องหญิง กลับไปกับ นายอ๊อฟ โดยอ้างว่าแฟนหนุ่มต้องไปทำงานต่อ และทางที่ไปเป็นคนละทาง

จากนั้นในช่วงเวลา ประมาณ 05.00-06.00 น. ขณะที่ น้องหญิง นั่งอยู่บนรถเทรลเลอร์ที่ขับมาโดย นายอ๊อฟ   น้องหญิงได้โทรหา พี่รุ้ง และร้องไห้บอกว่ากลัว จากนั้นไม่นาน นาย อ๊อฟ  โทรมาหาพี่รุ้งโดยใช้โทรศัพท์มาแจ้งว่าน้องหญิงกระโดลงจากรถได้รับบาดเจ็บ และนำตัวไปส่งรพ.แล้ว

 

                                    

ถัดจากนั้นมาอีกวัน น้องหญิง  เสียชีวิตเนื่องจากมีเลือดออกปาก ออกจมูก น้ำตาไหลตลอด มีอาการชัก ก่อนจะถูกส่งตัวไปอีกรพ. ซึ่งผลเอ็กซเรย์ออกมาว่าฐานกะโหลกแตก กระดูกหน้าแตก สมองบวม แพทย์ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดหลังจากที่ น้องหญิง เสียชีวิต นายสุบิน บิดาของน้องหญิง ได้ไปแจ้งความ ตำรวจเรียกตัว นายอ๊อฟ มาสอบสวน ก่อนจะปล่อยตัวไป โดยไม่เก็บหลักฐานทั้งๆ ที่หลักฐานในโทรศัพท์มือถือเยอะมาก ขณะที่ผลชันสูตรเบื้องต้นออกมาว่า น้องหญิง โดนของแข็งที่ไม่มีคมทุบตีที่ท้ายทอย  จากคำให้การของพยาบาลบอกว่า สภาพร่างกายของน้องหญิง เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เนื้อตัวสะอาด ไม่มีฝุ่นไม่มีเศษหินเลย  มีแผลถลอกที่มือ ข้อศอก ด้านข้าง สะโพกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

แต่ญาติไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ สงสัยเป็นการฆาตกรรม จึงเดินทางมาพบกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี เนื่องจากพ่อของหญิง คาดว่าลูกสาวถูกฆาตรกรรมมากกว่าอุบัติเหตุ 
 

                                                           

ต่อมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหานายสุรพล ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายและฆ่าผู้อื่น ส่วน เป็ด เพื่อนสนิทน้องหญิง ที่อยู่ในสถานบันเทิงด้วยกัน และแนะนำให้น้องน้องหญิงรู้จักกับนายอ๊อฟ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาให้การสนับสนุน หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย 

 

                                                        

วันที่ 5 ก.ค. ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ศาลพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องนายสุรพล ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายและฆ่าผู้อื่น

 

คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด หากทางครอบครัวของทางนายอ๊อฟ ยังมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเขา ก็ต้องสู้กันต่อถึงชั้นฎีกา ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายของคดีนี้จะจบลงอย่างไร