เจอตัวแล้ว แม่ใจร้ายทิ้งลูกแรกเกิดหน้า รพ. อ้างตกงานไร้ทางออก

 

วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ตำรวจนครบาลบางรักได้คุมตัวนางสาวปุ้ย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ภายหลังตรวจสอบพบว่าเป็นมารดาที่นำทารกมาทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลมเหสักข์ ซอยปราโมทย์ 2 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ เมื่อเช้าวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา

 

โดยหลังเกิดเหตุตำรวจและพลเมืองดีได้นำทารกส่งให้ทางแพทย์ โรงพยาบาลมเหสักข์ ทำการปฐมพยาบาลและช่วยเหลือจนปลอดภัย ก่อนส่งต่อให้ทางโรงพยาบาลตำรวจดูแล โดยทารกแรกเกิด น้ำหนักประมาณ 3,600 กรัม สายสะดือถูกตัดและผูกด้วยเศษผ้า ลักษณะเพิ่งคลอด โดยพบว่าการตัดสายสะดือน่าจะคลอดเอง ไม่ได้คลอดจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลแต่อย่างใด ล่าสุดเด็กอาการปลอดภัย

 

อ่านข่าว สุดสลด แม่ใจร้าย ทิ้งลูกแรกเกิดไม่ทันลืมตาดูโลกในถังขยะ

 

 

ต่อมา พันตำรวจเอก ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการตำรวจนครบาลบางรัก ได้สั่งการให้ พันตำรวจโท สาธิต สอนชา รอง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจนครบาลบางรัก นำกำลังลงพื้นที่พิสูจน์ทราบพ่อแม่ของเด็ก พร้อมทั้งติดตามคนที่นำเด็กมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว เมื่อทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง จนทราบตำหนิรูปพรรณหญิงต้องสงสัย และติดตามเส้นทางก่อนและหลังที่จะนำเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิงมาทิ้งไว้

 

 

จนทราบว่าผู้ที่นำเด็กมาทิ้งไว้คือ นางสาวปุ้ย (นามสมมติ) เป็นมารดาผู้ให้กำเนิด และเป็นคนนำเด็กมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก่อนนำตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวน นางสาวปุ้ย (นามสมมติ) ยอมรับว่าเป็นผู้นำเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิงไปทิ้งไว้จริง เนื่องจากตกงาน ไม่มีรายได้ อีกทั้งยังมีภาระต้องรับผิดชอบอีกหลายอย่าง จนไม่สามารถหาทางออกให้กับชีวิตได้ โดยตนได้คลอดลูกตอนช่วงเวลา 02.00 น.ของวันที่ 11 พ.ค. ในห้องน้ำภายในห้องพัก แล้วนำลูกมานอนให้นม หลังจากนั้นเวลาประมาณ 04.00 น. จึงนำลูกไปทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว จนทางตำรวจมาทราบเรื่อง

 

 

ต่อมาตำรวจนครบาลบางรัก ร่วมกับ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม ,แพทย์และพยาบาล ได้ส่งตัวนางสาวปุ้ย (นามสมมติ) เข้าทำการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยขณะนี้ นางสาวปุ้ย (นามสมมติ) ทางแพทย์ได้ให้พักรักษาตัว เนื่องจากเสี่ยงต่ออาการติดเชื้อและตกเลือดหลังการคลอด

 

 

อย่างไรก็ตาม ทางแม่เด็ก ระบุอีกว่า หากมีกำลังใจที่ดีแล้ว และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่ามีความตั้งใจ และประสงค์จะรับเด็กกลับไปเลี้ยงดู ให้เป็นคนดีของสังคม อย่างดีที่สุดด้วยตัวเอง ส่วนการช่วยเหลือทางคดี และการช่วยเหลือทางอื่นๆ อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของตำรวจ