
ชานชาลานักเขียน-ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักเขียนรางวัลศรีบูรพา 2552
00 ขอแสดงความยินดีกับ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ในโอกาสที่คณะกรรมการ กองทุนศรีบูรพา นำโดยประธาน ประยอม ซองทอง มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ได้รับ รางวัล ศรีบูรพา ประจำปี พ.ศ. 2552 ตามหลักการของรางวัล
คือ 1.เป็นนักคิด นักเขียน นักแปล กวี หรือนักหนังสือพิมพ์ ที่มีแบบฉบับการใช้ชีวิตที่งดงาม และแบบฉบับการสร้างสรรค์งานที่มีคุณค่าต่อสังคม และมนุษยชาติ มาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนอย่างเช่น “ศรีบูรพา” 2.มีผลงานติดต่อกันเป็นเวลายาวนานไม่น้อยกว่า 30 ปี และต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน และ 3.ยังมีชีวิตอยู่...
00 ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นับว่าเป็น นักเขียนรางวัลศรีบูรพา คนที่ 21 ต่อจาก สุทธิชัย หยุ่น ...ท่านเกิดวันที่ 6 พฤษภาคม 2484 เป็นนักคิด นักเขียน นักแปล และนักวิชาการ ผู้มีบทบาทอันดับต้นๆ คนหนึ่ง เคยทำหน้าที่ บรรณาธิการวารสารธรรมศาสตร์ เคยดำรงตำแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2537-2538) ผู้ก่อตั้ง กองทุนจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นอาทิ ปัจจุบัน อ.ชาญวิทย์ ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมจดหมายเหตุสยาม กรรมการและเลขานุการมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ฯลฯ...
00 ด้าน ‘งานเขียน’ ที่โดดเด่น เช่น “14 ตุลา บันทึกประวัติศาสตร์” “3 ทศวรรษ 14 ตุลา กับประชาธิปไตยไทย” “เจ้านโรดม สีหนุ กับนโยบายความเป็นกลางของกัมพูชา” และอีกมากมาย ที่สำคัญด้าน ‘งานแปล’ นั้น ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ได้แปลงาน ‘วรรณกรรมชั้นเยี่ยม’ ไว้หลายเล่ม อาทิ “พ่อมดมหัศจรรย์แห่งอ๊อซ” และ “โจนาทาน ลิฟวิงสตัน นางนวล” (พิมพ์ซ้ำเกือบ 20 ครั้ง) เป็นต้น นี่คือ นักเขียนรางวัลศรีบูรพา คนที่ 21 ซึ่งจะมีพิธีมอบรางวัลใน ‘วันนักเขียน-5 พฤษภา 52’ นับว่าเป็น ‘ของขวัญวันเกิด’ ชิ้นล้ำค่ายิ่ง ยินดีด้วยจริงๆ ครับอาจารย์...
00 ผลการประกวด ‘หนังสือดีเด่น’ รางวัลสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ (ครั้งที่ 37) ประจำปี 2552 ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศออกมาแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศราบเรียบเงียบเหงา ปีนี้เขาเปิดโอกาสให้ส่งหนังสือเข้าประกวด 9 กลุ่ม 13 ประเภท เช่นเคย แต่ขอนำมาฝากเฉพาะที่ผู้คนแวดวงวรรณกรรม ให้ความสนใจเป็นพิเศษเท่านั้น...
00 เริ่มกันที่ประเภท นวนิยาย : รางวัลดีเด่น ไม่มีหนังสือเล่มใดสมควรได้รับรางวัล ชมเชยมี 2 รางวัล ได้แก่ “ยิ่งฟ้ามหานที” ของ กนกวลี พจนปกรณ์ และ “ฆาตกรรมลวง” ของ ธันวา วงษ์อุบล ประเภท กวีนิพนธ์ : รางวัลดีเด่น ไม่มีหนังสือเล่มใดสมควรได้รับรางวัล ชมเชย 3 รางวัล ได้แก่ “เดินตามรอย” ของ วันเนาว์ ยูเด็น “นิยายของน้ำหยดหนึ่ง พิราบขาว และดอกหญ้า” ของ ชัยพร ศรีโบราณ และ “โลกยนิทาน” ของ ธีรภัทร เจริญสุข...
00 รวมเรื่องสั้น : รางวัลดีเด่น ได้แก่ “จากสายน้ำสู่นคร” ของ ประกาศิต คนไว ส่วน ชมเชย 3 รางวัล ได้แก่ “เด็กทารกแห่งเมืองหมองหม่น” ของ อดิศร ไพรวัฒนานุพันธ์ “เมรุมายา” ของ ศันสนีย ศีตะปันย์ และ “รูปรัก” ของ วรภ วรภา ด้านสารคดี : รางวัลดีเด่น ได้แก่ “ซ่อนไว้ในสิม : ก-อ ในชีวิตอีสาน” ของ อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย ส่วน ชมเชย 3 รางวัล ได้แก่ “คนสองแผ่นดิน” ของ รุ่งมณี เมฆโสภณ “ไม่ขอรับเกียรติยศใดๆ ทั้งสิ้น : 95 ปี 4 เดือน 9 วัน พูนศุข พนมยงค์” วาณี พนมยงค์-สายประดิษฐ์ และ “142 วัน 1,800 กม. นิเวศศิลป์ริมโขง” ของ พิน สาเสาว์...
00 วรรณกรรมเยาวชน : รางวัลดีเด่น ก็ไม่มีหนังสือเล่มใดสมควรได้รับรางวัล มีแต่ ชมเชย ให้เชยชม 3 รางวัล ได้แก่ “กระท่อมดินทุ่งดาว” ของ พิบูลศักดิ์ ละครพล “ขวัญสงฆ์” ของ ชมัยภร แสงกระจ่าง และ “สายลมกับทุ่งหญ้า” ของ วิเชียร ไชยบัง ขณะที่ประเภท ‘ร้อยกรอง’ สำหรับเยาวชน ยิ่งแย่ไปใหญ่ ทั้งดีเด่น และชมเชย ไม่มีหนังสือเล่มใดสมควรได้รับรางวัล แม้แต่เล่มเดียว!...
00 นี่คือเวทีประกวด ‘หนังสือแห่งชาติ’ รายการที่คิดว่าน่าสนใจ ซึ่งผู้ได้รางวัลดีเด่น นอกจากได้รับพระราชทานโล่ จะได้รับเงินสด รางวัลละ 30,000 บาท เช่นเคย ส่วนรางวัลชมเชย ปีนี้อยากจะไชโยโห่ร้องดังๆ เพราะ สพฐ. เขามีน้ำใจให้ รางวัลละ 10,000 บาท เป็นปีแรก! หลังจากไม่เคยได้สักบาทตลอด 36 ปีที่ผ่านมา (ไชโย ไชโย ไชโย) พิธีมอบรางวัลมีขึ้นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 26 มีนาคมนี้ ยินดีกับทุกคนนะครับ...
00 น่าสังเกตว่า หลายคน-หลายเล่ม เคยคว้ารางวัลหนังสือดีเด่น ‘เซเว่นบุ๊คอวอร์ด’ ประจำปี 2551 รับ ‘เงินแสน’ มาแล้ว ไม่ว่านวนิยาย “ยิ่งฟ้ามหานที” ของ กนกวลี พจนปกรณ์ รวมเรื่องสั้น “เด็กทารกแห่งเมืองหมองหม่น” ของ อดิศร ไพรวัฒนานุพันธ์ และ “ซ่อนไว้ในสิม : ก-อ ในชีวิตอีสาน” ของ อู่ทอง ล้วนมาจากเวทีนี้ทั้งสิ้น! โดยเฉพาะรายหลัง-เล่มหลังนี่ โกยไม่หยุด เพราะยังได้ รางวัลชมเชย ประเภท หนังสือสวยงาม เวทีแห่งชาติปีนี้แถมอีกหนึ่ง...
00 เช่นเดียวกับนักเขียนหนุ่ม “อดิศร” ก่อนชนะเลิศเวที เซเว่นบุ๊คฯ ของ ซีพี ออลล์ และได้ชมเชยมาเชยชมจากเวที สพฐ. นั้น รวมเรื่องสั้น “เด็กทารกฯ” ของเขาก็เคยคว้ารางวัลดีเด่น รับ 50,000 บาท จากเวที Young Thai Artist Award ของ มูลนิธิซิเมนต์ไทย ตั้งแต่ยังแบเบาะเป็น ‘ต้นฉบับ’ โน่นแล้ว...อ้อ ถึงบรรทัดนี้นึกขึ้นได้ว่า รศ.ยุพร แสงทักษิณ ประธานตัดสินวรรณกรรม ‘รวมเรื่องสั้น’ เวทีหนังสือดีเด่น เซเว่นบุ๊คอวอร์ด กลับคว้ารางวัลดีเด่นเวที หนังสือแห่งชาติ ประเภท สารคดีเยาวชน ด้วยผลงาน “เงาะป่า วรรณคดีสัญลักษณ์แห่งรัชสมัย” ไปครองซะอีกแน่ะ! โห...ช่างพัลวันพัลเก เท่สุดๆ ยินดีด้วยครับอาจารย์...
00 มาดูข่าวอื่นบ้าง...อย่าได้แปลกใจว่าทำไม สร้อยแก้ว คำมาลา นักเขียนสาวชาวเชียงใหม่ ไปลงพื้นที่เก็บข้อมูล คนหาปลา อยู่ที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูน จ.อุบลราชธานี เป็นเวลาปีกว่า และมีทีท่าว่า ลงหลักปักฐานอยู่แถบนั้นต่อ เพราะนอกจาก “สร้อยแก้ว” ได้พบข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการ ‘เขียนหนังสือ’ อย่างมากแล้ว เธอพบรัก กับหนุ่มยโสธรเพื่อนร่วมงานอีกด้วย! รักจริงหวังแต่ง ถึงขั้นมีผู้ใหญ่มาทำพิธีผูกข้อมือ เป็นสักขีพยานให้เสร็จสรรพ และนับว่า โชคดีชั้นที่สอง เมื่อแว่วข่าวเธอกำลังจะมี ‘พยานรัก’ ตามมาในไม่ช้าไม่นาน ยินดีด้วยนะน้อง...
00 แต่รายนี้เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด วัฒน์ วรรลยางกูร นักเขียนศรีบูรพา คนที่ 19 หลังสูญเสียคู่ชีวิตไม่ถึงเดือน ตัวเองก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วยฝนตกหนักถนนลื่น รถพังยับ แต่โชคดี “พี่วัฒน์” คนขับ ไม่เป็นอะไร ถือว่าฟาดเคราะห์! ต่อแต่นี้ไป หวังว่าพี่คงมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตและครอบครัวนะครับ...
00 นี่ก็สุขภาพ...เอ๊ย! สภาพไม่คล่อง มาโนช พรหมสิงห์ นักเขียนรางวัลรพีพร ในฐานะบรรณาธิการ ‘ไทบ้าน’ ณ เมืองอุบลฯ จำต้องยุติบทบาท วารสารข่าวเล่มนี้ลง! เพราะ ไม่มีทุนทำอีกต่อไป ฉบับ ‘นิทานพื้นบ้าน’ ที่กำลังอวดโฉมเป็น ฉบับสุดท้าย! ของปีนี้...ขณะที่ในเมืองหลวง แว่วข่าวว่า FIRST นิตยสารรายปักษ์ เริ่ดหรู ของ “เฮียกวง” วรพันธ์ โลกิตสถาพร แห่งค่าย สถาพรบุ๊คส์ ก็กำลังจะโบกมือลาเช่นกัน!? เฮ้อ! ดูแลสุขภาพกระเป๋าให้ดีๆ นะครับ...
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดี
หมายเหตุ : ท่านผู้อ่านมีความประสงค์จะส่งจดหมายหรือคำแนะนำใดๆ มายัง “ชานชาลานักเขียน” โปรดส่งตรงถึง “วรรณฤกษ์” ตู้ ปณ. 75 ปณฝ. หัวหมาก กรุงเทพฯ 10243
วรรณฤกษ์