ข่าว

"ศรีไทยซุปเปอร์แวร์"ยื้อต่อไม่ไหว หยุดกิจการบางส่วน-สั่งพักงาน 600 คน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศรีไทยซุปเปอร์แวร์"ยื้อต่อไม่ไหว หยุดกิจการบางส่วน-สั่งพักงาน 600 คน

เมื่อปลายปี2562  หลายบริษัทต้องเดินเข้าสู่โหมดการปรับตัวทางธุรกิจครั้งสำคัญเพื่อให้ธุรกิจเดินไปสู่การรับมือกับเทคโนโลยีสมัยใหม่  อีกทั้งแรงบีบจากผลกระทบหลักจากเงินบาทที่แข็งค่ามาก  ส่งผลให้ขีดความสามารถในการแข่งขันส่งออกลดลง  รวมถึงสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา ที่สะเทือนถึงไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมเพราะสินค้าไทยพึ่งพาตลาดส่งออก 2 ประเทศดังกล่าวในสัดส่วนตั้งแต่ 10-12%

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ธุรกิจของกลุ่มศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับผลกระทบจนอยู่ในภาวะขาดทุนเป็นครั้งแรก เมื่อผลจากยอดขายของบริษัทในปี 2562 หลุดเป้าหมายไป 7% หรือราว 900 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9,700-10,000 ล้านบาท ผลกระทบหลักจากเงินบาทที่แข็งค่ามาก กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันส่งออก ส่งผลให้ยอดขายในรูปดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อทอนกลับมาเป็นเงินบาทหายไป ทำให้บริษัทขาดทุนเป็นครั้งแรก  ซึ่งปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบแต่บริษัทจะยังมีการจ่ายเงินพิเศษ(เงินโบนัส)ให้กับพนักงาน 1.5-2 เดือน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจสนั่น  อังอุบลกุล
 

                    "ศรีไทยซุปเปอร์แวร์"ยื้อต่อไม่ไหว หยุดกิจการบางส่วน-สั่งพักงาน 600 คน

 

-วิกฤติไวรัสโคโรนากระแทกซ้ำจนยื้อไม่ไหวต้นปี2563  ไม่มีใครคาดคิดว่ามรสุมลูกใหญ่รออยู่ข้างหน้าเป็นพายุที่เขย่าขาเศรษฐกิจจนปั่นป่วนไปทั้งโลกยิ่งทำให้กลุ่มศรีไทยซุปเปอร์แวร์ต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับปัญหาที่เข้ามาต่อเนื่อง โดยผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 เริ่มส่งผลต่อบริษัทนับแต่เดือนพฤษภาคม 2563  ที่ปริมาณออเดอร์ร่วงลงชัดเจนทั้งจากตลาดภายในและตลาดส่งออก

 

นายสนั่นกล่าวว่าเป็นปีที่ยากลำบากซ้ำซ้อนหลายเรื่องที่ถาโถมเข้ามาไล่ๆกัน  คนทำธุรกิจก็ต้องกัดฟันอดทน ทำอย่างไรให้กระทบต่อพนักงานน้อยที่สุด กางแผนบริหารความเสี่ยง ตั้งแต่ลงทุนปรับตัวด้านเทคโนโลยี จนมาถึงการเร่งทำแผนยืนยันลูกค้าล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมว่านับจากนี้ไป จะมีปริมาณออเดอร์อยู่ในมือแน่นอนจำนวนมากน้อยแค่ไหน  และบริษัทสามารถผลิตป้อนให้ลูกค้าได้แค่ไหนเมื่อดูปัจจัยเอื้อด้านวัตถุดิบ การขนส่งและกำลังคน“เราต้องแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 ส่วน กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่เชื่อมั่นต่อลูกค้าว่าจะมีออเดอร์มาแน่ๆสัดส่วน75% กลุ่มที่2  เชื่อมั่นว่ามีออเดอร์เข้ามา 50% และเชื่อมั่นว่ามีออเดอร์เข้ามา 25%  พอเรามาประเมินรวมก็สรุปว่าภายในเดือนพ.ค.ถึงเดือนก.ค.นี้ เฉลี่ยออเดอร์ดังกล่าวทั้ง3ส่วน ได้ที่ระดับ 60-70% จึงมาวางแผนวัตถุดิบและบริหารการผลิตตามออเดอร์ที่มี รวมถึงการส่งมอบลูกค้า ทำให้ทั้งเราและลูกค้ามั่นใจว่าเราผลิตป้อนได้แน่ และเราก็บริหารความเสี่ยงช่วงวิกฤติได้ระดับหนึ่ง”

-กำลังผลิตร่วงเหลือ60% ต้องปิดไลน์ผลิต-พักงานนายสนั่นกล่าวอีกว่า เมื่อการผลิตร่วงลงมาที่ 60-70% ก็ต้องบริหารความเสี่ยงด้าน “คน” โดยโรงงานผลิตเมลามีนที่จังหวัดนครราชสีมา มีทั้งหมด 4 ไลน์ผลิต  มีพนักงานรวมราว 1,200 คน   ในส่วนนี้จะปิดชั่วคราว 1 ไลน์ผลิตเป็นเวลา 1-2 เดือน โดยสั่งพักงานพนักงานชั่วคราวจำนวน 250 คน ในเบื้องต้นจะเริ่มก่อนเป็นเวลา1 เดือน  หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นปรับเป็น 2 เดือน  และกำลังพิจารณาสั่งพักงานหรือหยุดงานชั่วคราวจำนวน 350 คนของโรงงานที่บางปู ที่ผลิตเปลือกหุ้มแบตเตอรี่พลาสติก ที่ต้องหยุดการผลิตลงเพราะค่ายรถยนต์หยุดผลิตชั่วคราวหลายเดือน ซึ่งโรงงานแห่งนี้ตามภาวะปกติจะมีรายได้ราว 600 ล้านบาทต่อปีกำลังจะต้องหยุดการผลิตลงชั่วคราวก่อน ส่วนโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะกับที่สุขสวัสดิ์ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรต้องรอดูสถานการณ์เป็นช่วงๆไปสำหรับพนักงานที่อยู่ในข่ายหยุดงานชั่วคราวทั้งหมดราว 600 คน บริษัทฯจะส่งชื่อพนักงานทั้งหมดนี้ไปยังกรมสวัสดิการแรงงาน กระทรวงแรงงานเพื่อให้ได้รับเงินอุดหนุน62%ของเงินเดือนขั้นต่ำ โดยที่พนักงานทั้งหมดยังคงสถานะเป็นพนักงานบริษัทอยู่โดยไม่ต้องลาออก และพนักงานที่นครราชสีมายังสามารถพักอาศัยอยู่ในหอพักของบริษัทได้เช่นเดิม“ต้องยอมรับสภาพจากวิกฤติครั้งนี้ให้ได้เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19คงจะลากยาว อย่างเร็วที่สุดถึงปลายปีนี้ ซึ่งพนักงานเข้าใจดี  บางคนเป็นแรงงานต่างด้าวอยู่กับเรามานานนับ10 ปี  ดูแลกันเหมือนพนักงานคนไทย  ถ้าเลิกจ้างหรือปลดออก ก็จะลำบากมากในสถานการณ์แบบนี้ เราจึงต้องดูแลกันให้ดี”นายสนั่นกล่าวทิ้งท้าย ฟังเสียงเอกชน! หลังนายกฯลั่นโควิดกระทบศก.ลากยาว 


ขอบคุณ "ฐานเศรษฐกิจ" 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ