ฮีโร่ยามวิกฤต ส.อบต.เก็บกระเป๋าเงินเกือบ 2 หมื่นส่งคืนเจ้าของ

วันที่ 6 พ.ค.2563 นายชัยวัฒน์ เกลี้ยงประดิษฐ์ อายุ 30 ปี หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม “ดีเจบอย” นักจัดรายการวิทยุชุมชน 96.26 แซ็ทเรดิโอ นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น.ในขณะที่ตนเองเดินทางไปติดต่อทพธุระที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายติญะมาศ โททอง มีตำแหน่งเป็น ส.อบต.ท้องลำเจียก เชียรใหญ่  จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาพบ ด.ต.มนตรี ปทุมมาศ เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน พร้อมแจ้งว่าตนเองได้พบกระเป๋าสตางค์บริเวณไปรษณีย์หัวอิฐ ถนนกะโรม  ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ภายในกระเป๋ามีเงินอยู่จำนวนมาก พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็มและเอกสารสำคัญในกระเป๋าอีกจำนวนหนึ่ง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบและติดตามหาเจ้าของกระเป๋าเพื่อให้มารับกระเป๋าคืนด้วย

             ด.ต.มนตรี ปทุมมาศ  จึงได้ให้นายไชยวัฒน์ หรือ “ดีเจบอย” พร้อมนายติญะมาศ พลเมืองดีผู้พบกระเป๋า เป็นพยานในการเปิดกระเป๋าออกมาตรวจสอบ โดยพบว่าในกระเป๋ามีเงินจำนวน 18,450 บาท พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน เอทีเอ็มและและเอกสารสำคัญหลายอย่าง ซึ่งบัตรประจำตัวประชานระบุชื่อนายวัชรินทร์ นุวงศ์  อายุ 34 ปี บ้านอยู่หมู่ 1 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าในกระเป๋ามีเบอร์โทรศัพท์อยู่หลายหมายเลข จึงโทรสุ่มตรวจสอบและสอบถามจนกระทั้งได้เบอร์โทรศัพท์ของนายวัชรินทร์ เจ้าของกระเป๋า ด.ต.มนตรี จึงโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบว่ามีคนพบกระเป๋าสตางค์ขอให้มารับคืนที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช

ต่อมาไม่นานนายวัชรินทร์ นุวงศ์ เจ้าของกระเป๋าได้รีบเดินทางมายัง กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และแจ้งว่าช่วงไวรัสโควิด -19 ระบาดหนักทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพตามปกติได้ ในขณะที่ต้องใช้จ่ายในครัวเรือนทุกวันจนเงินที่เก็บออมไว้หมด จึงตัดสินใจนำสร้อยคอทำคำหนัก 1 บาท 1 เส้นมาจำนำไว้ที่ร้านทองแห่งหนึ่งใกล้กับที่ทำการไปรษณีย์หัวอิฐเนื่องจากในขณะนั้นเหลือเงินติดตัวแต่ 50 บาท เพื่อจะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในครัวเรือน และจำนำได้เงิน 18,400 บาทนำเงินใส่กระเป๋าสตางค์ ก่อนจะเดินมาขับรถ จยย.ที่จอดอยู่หน้าที่ทำการไปรษณีย์ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้ว่าได้ทำกระเป๋าสตางค์ตกไว้หน้าไปรษณีย์ จากนั้นแวะร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน แต่เมื่อมาที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงินค่าสินค้า ทราบว่ากระเป๋าสตางค์หล่นหายไป จึงรีบขับรถไปตระเวนที่บริเวณร้านทองและเดินหาในพื้นที่ใกล้เคียง  แต่ไม่พบกระเป๋าสตรงค์ตอนนั้นรู้สึกเครียดมาก คิดว่ากระเป๋าและเงินที่เพิ่งจำนำสรอยคอทำงคำมาสด ๆ ร้อน คงหายแน่แล้ว คนที่พบคงไม่นำมาคืนอย่างแน่นอน และคิดไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปใช้จ่ายในครัวเรือน จนกระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนเก็บกระเป๋าสตางค์ขอตนได้และให้ไปรับคืนที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช

            “ตอนนั้นตนดีใจจนเนื้อเต้นลีบเดินทางไปที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าคนที่พบคือนายติญะมาศ โททอง นายวัชรินทร์ รีบเข้าไปยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอบคุณ จากนั้น ด.ต.มนตรี ปทุมมาศ ให้พลเมืองดีมอบกระเป๋าคืนให้กับนายวัชรินทร์ โดย ด.ต.มนตรี และนายไชยวัฒน์ หรือ “ดีเจบอย” เป็นสักขีพยาน  หลังรับกระเปาสตางค์คืนนายวัชรินทร์ ได้แสดงน้ำใจควักเงินสดในกระเป๋าจำนวนหนึ่งให้ให้นายติญะมาศ  แต่นายติญะมาศ ปฏิเสธไม่ยอมรับเงินพร้อมกล่าวว่า “น้องเก็บไว้เถอะ พี่ยังพอมีเงินอยู่บ้าง น้องคงจะเดือดร้อนกว่าพี่”

ซึ่งนายพิญะมาศ โททอง ส.อบต.ท้องลำเจียก พลเมืองดีรายนี้กล่าวว่า ในช่วงไวรัสโควิด -19 แพระระบาดประชาชนทุกคน ทุกสาขาอาชีพได้รับผลกระทบเดือดร้อนทั่วหน้า ก่อนเกิดเหตุตนเดินทางมาหาซื้อข้าวของเกี่ยวกับเครื่องอุปโภคบริโภคไปไว้ใช้ในครัวเรือน และพบกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าว ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าภายในกระเป๋ามีเงินสดจำนวนมาก ซึ่งเงินจำนวนเกือบ 20,000 บาทในกระเป๋าที่ตนพบหากเก็บไว้ใช้เองคงใช้ได้นานนับเดือน แต่ตนคิดว่าเจ้าของกระเป๋าที่ทำกระเป๋าหล่นคงจะได้ความเดือดร้อนอย่างมากแน่นอน จึงไม่คิดที่จะเก็บมาเป็นของตัวเอง และตัดสินใจนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสืบหาเจ้าของจนพบและมอบคืนให้เจ้าของกระเป๋า  และตนรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้ทำความดีช่วยเหลือให้นายวัชรินทร์ เจ้าของกระเป๋า พ้นจากความทุกข์ยากหรือเดือดร้อน จากนั้นนายวัชรินทร์  ได้เข้าไปยกมือไว้นายติญะมาศ อีกครั้งก่อนจะจับมือนายติญะมาศ พลเมืองดีอย่างสำนึกในบุญคุณ และจะแยกย้ายกันกลับไป

ในขณะที่ ด.ต.มนตรี ประทุมมาศ กล่าวว่า ตนต้องขอปรบมือและยกย่องชื่นชม พลเมืองดีรายนี้ด้วยความจริงใจ หากเขาเอาเงินไปใช้ไม่เอามาให้ตำรวจตามคืนเจ้าของก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาพบกระเปาสตรงค์มีเงินอยู่เกือบ 20,000 บาท แต่เขากลัลบม่คิดเอามาเป็นของตัวเอง “เขาเป็นฮีโร่ ในยามวิกฤติ”อย่างแท้จริง  ตนในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ขอชื่นชมและให้กำลังใจนายติญะมาศ โททอง ส.อบต.ท้องลำเจียก” พลเมืองดีรายนี้และนับเป็นตัวอย่างที่ดีในสังคมไทย โดยเฉพาะในยุคที่บ้านเมืองกำลังประสบวิกฤติไวรัสวิด-19 ระบาดอย่างหนัก และขอชื่นชมเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่าน ๆในการทำความดีในช่วงที่บ้านเมืองวิกฤติเช่นนี้ ตนได้นำเรื่องราวส่งทางไลน์และโลกโซเชี่ยลมีผู้คนเข้ามาชม แชร์และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง.

ยุทธนะ  เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ขอบคุณภาพ /ไชยวัฒน์ เกลี้ยงประดิษฐ์ “ดีเจบอย วังวัว”