กลาโหม เผย คนไทยในต่างประเทศจะกลับมาอีก ลงอู่ตะเภา

      พลโท คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคนไทยในต่างประเทศอีกจำนวนมาก ที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งภาครัฐโดยความร่วมมือกับภาคเอกชน จำเป็นต้องเตรียมพื้นที่และการบริหารจัดการคัดกรองเข้าสู่กระบวนการกักควบคุมโรคแห่งรัฐที่กำหนด (State Quarantine) ให้มีจำนวนเพียงพอสำหรับรองรับคนไทย โดยจะลงเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา 

   ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางไปค่ายนวมินทราชินี (นะ-วะ-มิน-ทะ-รา-รา-ชิ-นี) จ.ชลบุรี เป็นประธานประชุมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหัวหน้าหลายส่วนราชการในพื้นที่ ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข / ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี / ผู้ตรวจราชการสาธารณสุข / แม่ทัพภาคที่ 1 / ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 / นายกเมืองพัทยา / นายก อบจ.ระยอง / ผอ.สาธารณสุขนิเทศน์ เขต 6 / นายแพทย์สาธารณสุข จ.ชลบุรี / ผอ.สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 6 และประธานโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา รวมทั้งผู้แทน กองทัพไทย และเหล่าทัพ 

     โดยที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชนในด้านต่างๆ ทั้งการอำนวยการประสานงาน การป้องกันและควบคุมโรค การรักษาพยาบาลและการส่งกลับ การจัดการสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย รวมทั้งการรักษาความปลอดภัย รองรับคนไทยที่ทยอยเดินทางกลับจากต่างประเทศ

      นอกจากนี้ได้ร่วมกันวางแผนขับเคลื่อนการบริหารจัดการระดับพื้นที่ และยังได้พิจารณาแผนการใช้โรงแรมในพื้นที่อีก 7 แห่ง จำนวน 2,500 ห้อง เพื่อหมุนเวียนรองรับเป็นพื้นที่กักควบคุมโรคแห่งรัฐเพิ่มเติม นอกจากโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน โดยปัจจุบันมีผู้เข้าพักกักควบคุมโรคแล้ว จำนวน 577 ห้อง 

       พลเอก ณัฐ กล่าว ขอบคุณทุกส่วนราชการและ ย้ำถึงความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกัน ถือเป็นปัจจัยของความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค เพื่อความปลอดภัยของสังคมในภาพรวม พร้อมทั้งขอให้ทำงานร่วมกันโดยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กักควบคุมโรคแห่งรัฐ ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน โดยภาพรวมที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกส่วนราชการ รวมทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งถือเป็นต้นแบบของพื้นที่กักควบคุมโรคของรัฐ ที่สามารถขยายผลรองรับในภูมิภาคต่างๆ ที่มีท่าอากาศยานนานาชาติในอนาคต