สาเหตุปลาตายพบน้ำนั้นเสื่อมสภาพปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ | คมชัดลึก

   วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 น.จากสถานการณ์ปลาที่ชาวแพเลี้ยงไว้ในกระชังปลาทยอยตายกันเกลื่อนส่งผลให้ชาวแพจำนวน 64 ราย กระชังปลากว่า 100 กระชัง ขาดทุนย่อยยับเพราะปลาที่ตายลงไปนั้นยังไม่ได้ขนาดที่จะจับไปจำหน่ายรวมถึงที่ผ่านมานั้นเกษตรกรหรือชาวแพที่เลี้ยงปลาในกระชังโดนผลกระทบในช่วงโควิด-19ระบาด ส่งปลาในร้านอาหารหรือกิจการผู้ปะกอบการอย่างเช่นโต๊ะจีนไม่ได้เพราะต้องหยุดกิจการลงชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดนั่นเอง ส่งผลให้ปลาที่เลี้ยงไว้นั้นที่มีขนาดจับนำไปขายได้แล้วก็ยังคงต้องเลี้ยงอยู่ในกระชังต่อไปแบกภาระต้นทุนในเรื่องอาหารไว้ ล่าสุด  นายอลงกต วรกี ร​องผู้ว่ารา​ชการจังหวั​ดอุทัยธานี​ ร่วมกับประมง และทรัพยากรธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​จังหวัด​อุทัยธานี​ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของปลาในกระชังแม่น้ำสะแกกรัง ตั้งแต่บริเวณวัดอุโปสถาราม จนถึง บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี พบว่าปลาที่ตายนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปลาเกล็ดเช่น ปลาตะเพียนทอง ปลาพรม ปลาแรด โดยการแก้ไขนั้นทางเทศบาลเมืองอุทัยธานีนำรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน ฉีดน้ำลงแม่น้ำสะแกกรัง และวันหนึ่งจะฉีดประมาณ 2 ครั้ง ในช่วงเวลาเช้าและในช่วงเย็นเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ

 ส่วนผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำสะแกกรังพบว่าน้ำมีสีดำประกอบกับฝนที่ตกลงมา 2 วัน นั้นมีสารเคมีและสิ่งสกปรกอื่นๆนั้งไหลมาตามท่อระบายน้ำทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุทัยธานี  สำนักงานประมงจังหวัดอุทัยธานี และสำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 4 จังหวัดนครสวรรค์ร่วมตรวจสอบคุณภาพแม่น้ำสะแกกรังสภาพแวดล้อมโดยรอบมีลักษณะน้ำสีดำคล้ำ มีกลิ่นเหม็น มีผักตบชวาและสาหร่ายลอยอยู่บนผิวน้ำเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงจนปลาตาย

การแก้ไขนั้นกรมชลประทานในการดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเติมน้ำลดปริมาณความสกปรกโดยใช้หลักการน้ำดีไล่น้ำเสีย และติดตั้งเครื่องเติมอากาศเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้กับแม่น้ำโดยเร่งด่วน สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยาวสำนักงานประมงจังหวัดอุทัยธานี นั้นกำลังเร่งสำรวจว่าชาวแพที่โดนผลกระทบนั้นกี่รายเพื่อที่จะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เพื่อช่วยเหลือชุมชนชาวแพที่เลี้ยงปลากระชังต่อไป

นันทศักดิ์ วัฒนพานิช ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุทัยธานี