หนังสือสั่งการปลัด มท. เป็นเรื่องภูเก็ตหวิดชุลมุนปล่อยกลับภูมิลำเนา

 

              2 พฤษภาคม 2563 บรรยากาศบริเวณด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต หรือด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีประชาชนซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด และได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ตกงานและไม่มีรายได้ จำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนามารอจำนวนมาก พร้อมด้วยยานพาหนะซึ่งมีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยประชาชนส่วนหนึ่งตกค้างตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) และอีกส่วนมาสมทบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รวมแล้วกว่า 1,000 คน

อ่านข่าว - อึ่งไข่สวนกระแส โควิด-19 ตัวละ 30 บาท จัดว่าเด็ดไม่มีต่อราคา

 

 

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จำนวนผู้ที่เดินทางมาเริ่มบางตา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานราชการจากจังหวัดพังงา อาทิ กอ.รมน. , ฝ่ายปกครอง เป็นต้น มาคอยอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้ที่ติดค้างอยู่และมีความจำเป็นสามารถเดินทางออกไปได้ แต่ทั้งนี้จะต้องมีการกรอกเอกสารขออนุญาตการเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต และต้องระบุเหตุผลความจำเป็น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตเป็นรายๆ ไป จากนั้นก็จะมีการคัดกรองแยกจังหวัดในการเดินทาง โดยยังคงให้สติกเกอร์ติดรถเหมือนเดิม กรณีที่เป็นชาวจังหวัดพังงา จะได้สติกเกอร์สีชมพู , จังหวัดระนอง รับสติกเกอร์สีน้ำเงิน และจังหวัดอื่นๆ รับสติกเกอร์สีเหลือง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

              อย่างไรก็ตาม บรรยากาศทั่วเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าจะมีผู้ที่มาเข้าแถวเพื่อรอรับเอกสารการอนุญาตจำนวนมาก และบางส่วนก็ได้รับการอนุญาตเดินทางออกไปแล้ว แต่ปรากฏว่า ระหว่างที่รอได้เกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำหนังสือสั่งการจากปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0230/6963 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมี 4 ข้อ และหนึ่งในจำนวนนั้น ระบุว่า ให้จังหวัดออกเอกสารรับรองการผ่านการคัดกรองจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผ่านกระบวนการกักกันตัวที่จังหวัดภูเก็ตครบ 14 วันแล้ว เพื่อให้ผู้เดินทางนำไปแสดงระหว่างเดินทางและเมื่อถึงจังหวัดปลายทาง โดยได้ขอให้ผู้มารอรับการอนุญาตไปขอเอกสารดังกล่าวจากทางจังหวัดภูเก็ต สร้างความไม่พอใจให้กับผู้มายืนรอต่อแถวเป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่จะมารอกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง และบางคนเป็นผู้ตกค้างมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.)

 

 

 

              มีการส่งเสียงร้องโวยวายด่าทอด้วยความไม่พอใจและอัดอั้น อาทิ ทำไมไม่มีการแจ้งให้ชัดเจนจะได้ทำให้ถูกต้อง เพราะตอนนี้คืนบ้านเช่าไปแล้ว ตกงานมา 2 - 3 เดือนแล้ว เงินไม่มีแล้ว หากไม่ให้กลับภูมิลำเนา จะไปนอนที่ไหน ขณะที่บางคนถึงกับยืนน้ำตาซึม ก่อนที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์บริเวณด่านจะมาชี้แจงทำความเข้าใจและขอให้ทุกคนใจเย็นๆ โดยให้แต่ละคนกรอกเอกสารรายละเอียดการขออนุญาตเพิ่มเติมในส่วนของจังหวัดพังงา จากนั้นได้เดินผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิ ก่อนนำเอกสารไปยื่นให้เจ้าหน้าที่พิจารณาทำการอนุญาตเดินทางต่อไป

              จากการสอบถามผู้เดือดร้อนรายหนึ่งซึ่งจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้เหตุผลว่า ตกงาน ไม่มีรายได้ บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ และคืนบ้านเช่าไปแล้ว อยู่ไม่ได้แล้ว ก่อนจะมาที่ด่านได้ลงทะเบียนแจ้งความจำนงกับท้องถิ่นไว้ก่อนแล้ว เพราะหากอยู่ต่อก็ลำบาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

--------------------

ณัฐวุฒิ ละออสุวรรณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ภูเก็ต