ตั้งค่าหัว 3 หมื่น ล่าผู้ต้องขังแหกเรือนจำสว่างแดนดิน สกลนคร

    จากกรณีเหตุการณ์เช้ามืดวันนี้ (1 พ.ค.2563) เกิดเหตุผู้ต้องขังหลบหนี ออกจากเรือนจำสว่างแดนดิน เป็นผู้ต้องขังชาย จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายพัฒพงษ์  เกตุคำใส ผู้ต้องคดีครอบครองยาบ้า 30  เม็ด  นายสุรยันต์  สุพรรณประเสริฐ ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้า 177  เม็ด  นายภาณุพงษ์ โคตรชมพู ผู้ต้องหาคดีครอบครอง ยาบ้า 1,539 เม็ด  นายอนันต์ หลักคำ ผู้ต้องหาคดีครอบครอง ยาบ้า 283 เม็ด ยาไอซ์ อีก 32  กรัม และนายวัฒนชัย พันภักดี ผู้ต้องคดีโทษทำให้เสียทรัพย์  ทั้งหมดเป็นผู้ต้องคดียังไม่ใช่ผู้ต้องขัง หรือ นักโทษ แต่อยู่ระหว่างการฝากขัง ยังไม่มีการตัดสินคดี  กำลังจะครบกำหนดการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ทั้งถูกกักขังดูอาการ รวมกันทั้งหมด 21 คน

ซึ่งตลอดทั้งวัน ได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์  โดยมีนายสมมาตย์ สุราช ผู้บัญชาการเรือนจำ ประธานเขต 4  นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำสว่างแดนดิน ว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง ใครบุตร นายอำเภอสว่างแดนดิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจสว่างแดนดิน ร่วมประชุมและติดตามเหตุการณ์ จากชุดเฉพาะกิจตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และชุดปฏิบัติการพิเศษ ประจำเรือนจำกลางภาค 4 ที่ลงพื้นที่ติดตามหาข่าวเบาะแสของผู้ต้องขังที่หลบหนีแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานคืบหน้า  ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลเหตุจูงใจมาจาก ผู้ต้องขังต้องการหลบหนี และน่าจะมีการวางแผนกันมา  เพราะวันนี้จะครบกำหนดการกักตัว 14 วัน ก่อนจะถูกนำเข้าสู่แดนขังเรือนนอนรวมกับผู้ต้องขังทั่วไป  ทำให้การหลบหนีอาจทำได้ยากขึ้น  จากการประมวลภาพพบว่า อาคารเรียนที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวอยู่ติดกับกำแพงฝั่งทิศตะวันออก โดยกลุ่มผู้ต้องหา 5 คน จาก 21 คน ในอาคารกักตัว ได้ต่อตัวกันขึ้นไปทำลายฝ้าเพดานห้องแล้วมุดหนีไปตามคานเพดาน ไปทะลุที่ห้องสมุด ก่อนจะปีนขึ้นไปที่หลังคาอาคาร และต่อตัวอีกครั้งเพื่อปีนไปที่กำแพงเรือนจำ ที่มีความสูงประมาณ 5 – 6  เมตร แล้วใช้ผ้าพลาสติก ที่เตรียมมา ซึ่งเป็นผ้าพลาสติกที่ทางเรือนจำนำมากั้นไว้ระหว่างผู้กักตัว และผู้นำอาหารมาส่งในระหว่างการกักตัว  โดยใช้วิธีโยนให้พาดกับรั้วลวดหนามบนกำแพง ที่มีการปล่อยกระแสไฟไว้ตามระบบการป้องกันการรักษาความปลอดภัย  จากนั้นหย่อนตัวลงมาที่กำแพงด้านนอก  แต่พบว่า ในที่เกิดเหตุพบผ้าพลาสติกตกลงมาที่พื้น คาดว่า ระหว่างที่หย่อนตัวลงมีคนตกลงมาและอาจได้รับบาดเจ็บด้วย  จากนั้นผู้ต้องขังได้อาศัยความมืด พรางตัว หลบการตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนหอรักษา การณ์ คลานมาลอดรั้วลวดหนาม ที่เป็นแนวป้องกันด้านใน  และข้ามถนนมาที่รั้วป้องกันด้านนอก ด้านทิศเหนือ ที่อยู่ติดกับถนนนิตโย เส้นทางสายสกลนคร – อุดรธานี ก่อนจะหลบหนีไป  สำหรับเรือนจำสว่างแดนดิน มีเนื้อที่ 21 ไร่  3 งาน  22 ตารางวา มีนักโทษทั้งหมด 2,076 คน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี

นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำสว่างแดนดิน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะผู้ต้องขังที่หลบหนีไม่ใช่นักโทษ แต่เป็นผู้ต้องหาที่นำมาฝากขังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และศาลยังไม่มีการตัดสินโทษ  ซึ่งก่อนเข้าเรือนจำ ก็มีมาตรการให้มีการกักตัว 14 วันก่อนที่จะส่งเข้าเรือนนอน แต่จุดเกิดเหตุเป็นอาคารที่นำผู้ต้องหา มากักตัวใช้เป็นอาคารเรียนในเรือนจำ ซึ่งดัดแปลงให้เป็นสถานที่กักตัวชั่วคราว ห้องมีขนาด 20 ตารางเมตร สูง 2.40 เมตร สามารถจุคนได้ 20 คน  ซึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาที่นำมากักตัวครั้งนี้มีด้วยกัน 21 คน และได้มีการหลบหนีไป 5 คน จึงขอความร่วมมือจากประชาชน ที่พบเบาะแสผู้ต้องหา หรือเห็บบุคคลที่มีท่าทางพิรุธ เพราะผู้ต้องขังยังไม่ได้เข้าสู่การรับโทษในเรือนจำ จึงยังไม่ตัดผม และเมื่อถอดชุดออกและเปลี่ยนชุดใหม่ ก็จะไม่มีสิ่งที่บ่งบอกลักษณะเป็นผู้ต้องขัง หากใครพบเบาะแสทางราชการได้ตั้งรางวัลนำจับไว้คนละ 3 หมื่นบาท นายอรรถสิทธิ์ กล่าว

   ทวีป  ศรีสุชาติ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สกลนคร