สุดอั้น เปิดพิกัด 14 ตลาดน้ำ ใกล้กรุงเทพฯ พักผ่อน อิ่มอร่อย แบบไปเช้าเย็นกลับ
หลังจาก นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยประเทศไทยมีรายงาน ผู้ป่วยใหม่จำนวน 7 ราย ยอดสะสมรวม 2,954 คน ไม่พบผู้เสียชีวิต รวมเสียชีวิต 54 ราย และยังได้มีการเปิดเผยถึงมาตรการผ่อนปรน ในกิจการ สถานที่ต่างๆ ให้สามารถเปิดบริการได้ แต่ต้องมีการมาตรการ เว้นระยะห่าง จัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ กรณีร้านอาหาร ตลาด ต้องจัดให้มีฉากพลาสติกใสกั้น ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
สำหรับมาตรการผ่อนปรน เริ่มต้นวันที่ 3 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยมีประเภทกิจการและกิจกรรม 6 ประเภทดังนี้
1.ตลาด เช่น ตลาดสด /ตลาดนัด /ตลาดน้ำ /ถนนคนเดิน /แผงลอย
2.ร้านจำหน่ายอาหาร อาทิ ร้านอาหารทั่วไป /เครื่องดื่ม / ขนมหวาน /ไอศกรีม นอกห้างสรรพสินค้า /ร้านอาหารริมทาง /รถเข็น/หาบเร่
3.กิจการค้าปลีก-ส่ง อาทิ ซูปเปอร์มาเก็ต / ร้านสะดวกซื้อ /รถเร่ /รถวิ่งขายสินค้า / อุปโภค /บริโภค /ร้านค้าปลีขนาดย่อม /ร้านค้าปลีกชุมชน
4.กีฬาสันทนาการ /เดิน/ รำไทเก็ก/ สนามกีฬากลางแจ้ง /ไม่เล่นเป็นทีม / ไม่แข็งขัน /เทนนิส / ยิงปืน / ยิงธนู / จักรยาน / กอล์ฟ
5.ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย
6.ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับฝากสัตว์
ซึ่งเมื่อเริ่มต้น ผ่อนปรน ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม นี้ ซึ่งทางทีมข่าว คมชัดลึก ก็คาดว่า จะมีพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ออกเดินทางไปเที่ยวเที่ยว พักผ่อน หลักจากที่อยู่ในมาตรการเฝ้าระวังเข้ม อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ มากว่า 1 เดือนเศษแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีกฎหมายตาม พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ คือ หลัง 22.00 น. ห้ามเดินทาง ห้ามออกจากบ้าน
ฉะนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะเดินทางไปท่องเที่ยว หรือพักผ่อนหย่อนใจ ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ปฏิบัติตามข้อกำหนด ที่ ศบค. มีคำสั่งออกมาให้แต่ละตลาด ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้ว
ดังนั้น คมชัดลึก จึงขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว "ตลาดน้ำ" ที่อยู่ในเกณฑ์การผ่อนปรนของ ศบค. และอยู่ในกรุงเทพฯ และใกล้กรุงเทพฯ สามารถเดินทางแบบไปเช้า เย็นกลับ ได้สบายๆ จำนวน 14 แห่ง ประกอบด้วย
1. ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำใจกลางเมืองกรุง ตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เป็นตลาดน้ำที่ยังคงวิถีชีวิตความเป็นชาวสวนริมคลอง มีพ่อค้าแม่ค้า พายเรือขายอาหาร ผักผลไม้ต่างๆ ทั้งบนโป๊ะและในคลอง เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมไทย ผลไม้ต่างๆ ฯลฯ บนตัว ตลาดเองอยู่บนบกริมคลองหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน มีร้านอาหารและแผงลอยขายต้นไม้ประดับ ของตกแต่ง อาหาร ต่างๆ ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาด เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาล ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น
2.ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ย่านฝั่งธนบุรี ที่ตั้ง ถนนบางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นตลาดน้ำของแท้จริงๆ บรรยากาศเรียบง่าย เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลองอย่างแท้จริง มีของขายตลอด 2 ฝากฝั่งน้ำ ตลาดมีทั้งหมด 5 โซน ทำให้ของที่ขายในตลาดแต่ละโซนจะมีความหลากหลายมาก ตลาดน้ำคลองลัดมะยมนี้มีความคึกคัก และสีสัน เปิดเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 8.00 - 16.00 น. แนะนำช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ของจะขายเยอะมากๆ ช่วงเวลาที่แนะนำคือเช้าๆ สายๆๆ อากาศไม่ร้อยมาก
3.ตลาดน้ำขวัญเรียม นี้เป็นตลาดน้ำกลางกรุงริมคลองแสนแสบที่ร่มรื่น เชื่อมสองฝั่งระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือ เสรีไทย 60 และ วัดบางเพ็งใต้ รามคำแหง 187 ด้วยสะพานเรือที่เชื่อมระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและ วัดบางเพ็งใต้ ที่นี่จึงเป็นตลาดน้ำแห่งแรกที่มีสะพานเรือเชื่อมต่อวัฒนธรรมสองฝั่งคลองให้อยู่ร่วมกัน
คนที่อยู่แถวรามคำแหงก็เลยถือว่าโชคดี ที่ได้เที่ยว ได้ชิม ได้ช้อปเพราะตอนนี้มีตลาดน้ำน้องใหม่เปิดอย่างเป็นทางการกับ ตลาดน้ำสะพานสูง บริเวณริมคลองแสนแสบ หลังเดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-22.00 น.ถัดจากพื้นที่กรุงเทพฯ เขตปริมณฑลก็จะมีตลาดน้ำที่ให้ท่องเที่ยวอีกมากมาย อย่างเช่นตลาดน้ำ เขตจ.นนทบุรี
4. ตลาดน้ำประชารัฐสวนบัว ตั้งอยู่ที่ บางเลน ซอย 1 ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ตลาดน้ำขนาดกะทัดรัดที่มีของกินให้เลือกซื้อเลือกหามากมาย มีร้านค้าต่าง ๆ รายล้อมอยู่รอบสระน้ำกว้าง ให้นักท่องเที่ยวได้เดินวนเลือกชมและซื้อสินค้ากันอย่างครบถ้วน มีที่นั่งให้ได้นั่งกินอาหารและนั่งพักผ่อนอยู่ตลอดเส้นทาง และถ้าใครอยากปั่นเรือเป็ดเล่นกลางสระน้ำก็มีไว้บริการด้วยเช่นกัน มีอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกชิมมากมาย เช่น ผัก-ผลไม้สดจากสวน, ผักชุบแป้งทอด, ทองพับสมุนไพร, หมี่กรอบโบราณ, ปลาร้าทรงเครื่อง, ก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ, เมี่ยงคำเกสรบัว, ขนมครกสิงคโปร์, น้ำผลไม้พื้นบ้านไทย และทอดมันยอดมะพร้าวอ่อน เป็นต้น
5. ตลาดน้ำวัดตะเคียน ต.คูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งตลาดแห่งนี้ บรรยากาศชิล ๆ สบาย ๆ มีพ่อค้าแม่ขายมาพายเรือขายของ ทั้งผัก ผลไม้ และอาหารหน้าตาน่ากิน ด้วยรอยยิ้มและอัธยาศัยเป็นกันเอง และถ้ามาเที่ยวตลาดแห่งนี้ต้องไม่พลาดมากิน "ก๋วยเตี๋ยวเรือวัดตะเคียน" เพราะถ้าใครไม่ได้กินก็เหมือนมาไม่ถึง ถึงแม้ว่าคนรอต่อคิวเยอะ แต่ถ้าได้กินรับรองว่าอร่อยแบบลืมไม่ลง รวมถึงยังมีทั้งของคาว ของหวาน และขนมโบราณ ทำกันแบบสดใหม่ มีให้ซื้อกินกันแบบพุงกางเลยทีเดียว
จากจังหวัดนนทบุรี ก็มาต่อกันที่ จ.นครปฐม มีตลาดน้ำชื่อดัง เก่าแก่ บรรยากาศสบายๆ ให้เราได้ท่องเที่ยวกัน
6. ตลาดน้ำวัดลำพญา ริมแม่น้ำท่าจีน ตำบลลำพญา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เปิดเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาทีจากกรุงเทพฯ ภายในตลาดจะมีทั้งของคาว ของหวาน พ่อค้าแม่ค้ามากมายที่พายเรือมาขายของกันอย่างคึกคัก ที่นี่มีทั้งโซนตลาดสด และโซนร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งจะมีอาหาร ของอร่อยท้องถิ่น ผักสดจากสวนในพื้นที่ ขนมไทยโบราณ
7.ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง ณ บางเลน จ.นครปฐม เป็นตลาดน้ำที่เกิดขึ้นใหม่ และเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวยยอดฮิตของนครปฐม ที่นี่เป็นตลาดน้ำเก๋ๆ เน้นความสบาย วิวสวยๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดที่อยากจะเห็นทุ่งบัวแดงบานใกล้ๆ กรุงเทพฯ
8.ตลาดน้ำดอนหวาย ตั้งอยู่ด้านหลังของวัดดอนหวาย ริมแม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐม หนึ่งในตลาดน้ำมีที่ชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีตยาวนาน เรียกได้ว่า ตั้งแต่เด็กจนโตมานี้ก็ได้ยินชื่อตลาดน้ำดอนหวายแล้ว สำหรับนักชิมตัวยง ต้องไม่พลาดมาแวะที่นี่ เพราะนอกจากจะมีของอร่อยๆ แล้ว ยังมีให้เลือก และหลากหลายมาก ไฮไลท์อยู่ที่แพอาหารของแต่ละร้าน ที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ โดยเฉพาะร้านขายเป็ดพะโล้ เป็นของอร่อยประจำดอนหวายที่ขึ้นชื่อมากๆ ใครมาแล้วไม่ได้แวะชิม ถือว่ามาไม่ถึงตลาดน้ำดอนหวายได้เลยทีเดียวค่ะ
9.ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เป็นอีกที่เที่ยวของ ตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากกรุงเทพฯ เลยทีเดียวค่ะ ที่นี่จะมีการนำผลผลิตต่างๆ ของคนในชุมชนออกมาขายให้นักท่องเที่ยว ทั้ง ผลไม้ต่างๆ จากสวน อาหาร และขนมหายากของท้องถิ่น และเครื่องหัตถกรรม ของแฮนด์เมดต่างๆ
จะเปิดเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ 08.00 – 16.00 น. ไฮไลท์ของที่นี่คืออาหารการกินที่จัดหนักจัดเต็มมากๆ ทั้ง ขนมถ้วย ขนมจาก กล้วยแขก ม้าฮ่อ ขนมตระกูลทอง กาละแมกวน และสินค้า Otop ให้เลือกซื้อกลับบ้านเพียบ จากจ.สมุทรปราการแล้ว เรามาต่อกันที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งก็มีตลาดน้ำ แหล่งท่องเที่ยว ที่สายกิน สายช้อป ไม่ควรพลาดเช่นกัน
10.ตลาดน้ำริมน้ำวัดศาลเจ้า ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า เป็นตลาดเล็กๆ ริมน้ำ ณ วัดศาลเจ้านี้มีมานานหลายสิบปี ทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาประมาณ 9.00 -15.00 น. ถึงแม้จะเป็นตลาดเล็ก ๆ ตลาดนี้เป็นตลาดขายของกินแบบให้ซื้อกลับไปทานที่บ้าน มีอาหารหลากหลายชนิดทั้งคาวหวานให้เลือกซื้อ เลือกหากลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็น กุ๋ยช่ายร้านดัง ห่อหมก หอยครก กล้วยปิ้งโบราณ ใช้ไม้ไผ่เสียบกล้วย ข้าวแช่โบราณ ขนมเบื้องโบราณ ลูกตาลลอยแก้ว น้ำตาลสด ขนมไทยต่างๆ อาทิ ตะโก้ ถั่วแปบ ข้าวเม่า ขนมใส่ไส้ สารพัด ร้านของทอด เช่น ทอดมัน เต้าหู้ทอด กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด ก็มีให้เลือกมากมาย รวมถึงผลไม้ อาหาร เครื่องดื่ม ก็มีให้เลือกจับจ่ายอย่างครบครัน
11.ตลาดร้อยปีระแหง ตั้งอยู่ที่ชายคลองระแหงติดต่อคลองพระอุคม อำเภอลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เปิดจำหน่ายสินค้าทั้งอาหารคาว ขนมพื้นบ้าน ขนมไทยโบราณ ผลิตผลทางการเกษตรในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตลาดทั้งสองฝั่งคลองปลูก สร้างด้วยไม้ เป็นห้องแถวติดต่อกันยาว สมัยนั้นผู้คนจำนวนมากต้องสัญจรกันทางเรือและทางรถไฟต่อมาผู้คนก็หันมาสัญจรทางรถยนต์กัน กิจกรรมรถไฟก็ล้มเลิกไป แต่ยังคงเหลือตลาดเอาไว้ให้เป็น อนุสรณ์อจนทุกวันนี้ ทางอำเภอจึงได้ร่วมกันอนุรักษ์ตลาดเก่าที่ยังรักษาชุมชนเดิมไว้ได้ โดยจัดเป็นตลาดน้ำเหมือนในอดีตเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของจังหวัดปทุมธานี
จากเขตปริมณฑลใกล้กรุงเทพฯ ก็ขยับมาที่เมืองกรุงเก่า อย่าง จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ก็ยังมีตลาดน้ำ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหลายแห่งด้วยกัน
12.ตลาดน้ำอโยธยา ตั้งอยู่ที่เดียวกับปางช้างอโยธยา ข้างวัดมเหยงคณ์ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จะเรียกได้ว่าเป็นตลาดน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองอยุธยาเลยก็ว่าได้ เป็นตลาดย้อนยุคแบบโบราณ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ แบบไทยพื้นบ้านและสายน้ำ
นอกจากตลาดน้ำอโยธยาจะมีมุมสวยๆ และร้านค้าน่ารักๆ ให้ถ่ายรูปได้ทั้งวันแล้วยังมีบริการให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเรือชมตลาดน้ำได้อย่างทั่วถึงและได้บรรยากาศไปอีกแบบ ซึ่งเสียค่าบริการคนละ 20 บาทเท่านั้น และยังมีการแสดงมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชม เช่น การแสดงฟันดาบ การแสดงช้าง หรือถ้า ใครดูแล้วยังไม่จุใจ ทาง คมชัดลึก ออนไลน์ ก็ขอแนะนำ ตลาดน้ำ ในตำนาน พื้นที่ จ.สมุทรสงคราม ก็วิ่งจากกรุงเทพฯไปตลาดน้ำ ก็ประมาณ 100 กิโลเมตร
13. ตลาดน้ำอัมพวา นั้นตั้งอยู่ริมคลองใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม จ.สมุทรสงครามค่ะ ที่นี่เป็นตลาดน้ำยามเย็นแห่งแรก ด้วยเสน่ห์ของบ้านเรือนสองริมฝั่งที่ยังคงความดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศได้อย่างไม่ยาก เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ บรรยากาศสุดแสนคลาสสิคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีรถเข็นขายของบนบกด้วย และก็มีร้านเปิดให้เดินชิลล์ หรือจะนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศก็ได้ เสียงตามสายของชาวชุมชนที่เปิดตลอดเวลาทำให้นึกถึงสมัยคุณแม่ยังสาวจริงๆ ค่ะ
โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ เป็นโครงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนานำที่ดินที่คุณประยงค์ นาคะวะรังค์ ชาวอัมพวา ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย มาดำเนินการพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนอัมพวา เพื่อสืบสานภูมิปัญญาชาวบ้าน และอนุรักษ์วิถีการดำเนินชีวิตของชาวอัมพวา บรรยากาศภายในพื้นที่ของโครงการเต็มไปด้วยกลิ่นอายวิถีชีวิตของคนอัมพวาที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน
มาปิดท้าย ที่ จ.ราชบุรี ไม่ไกลเกินไป พอขับรถชิลๆ แบบไปเช้า เย็นกลับ ได้
14.ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นตลาดเก่าแก่กว่าร้อยปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของจังหวัดราชบุรีทุกวันนี้ก็ยังคงภาพของตลาดลอยน้ำที่คลาคล่ำไปด้วยเรือพาบรรทุกสินค้า พ่อค้าแม่ค้าใส่หมวกงอบใบลาน พายเรือเร่ขายของ จะเป็นที่นัดของเรือร้อยๆลำเพื่อชุมนุมขายสินค้าการเกษตร และสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองตลอดจนร้านขายของที่รับจากโรงงานในกรุงเทพหรือจากต่างจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแล้วคลองที่เต็มไปด้วยสินค้าทุกชนิดที่เขาตื่นตาตื่นราคาเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งทีเดียว ตลาดน้ำจะเริ่มคึกคัก ตั้งแต่ 6.00 น.ไปจนถึงประมาณ 11.00 น.จึงทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ต่อสายตาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวชมวิถีชีวิต และการค้าขายในตลาดน้ำแห่งนี้มากมาย
และนี่ก็คือ 14 ตลาดน้ำยอดนิยม ตลาดน้ำในตำนาน รอบกรุง และใกล้กรุงเทพฯ ที่ให้เราสามารถขับรถเดินทางไปชิลๆ แบบไปเช้าเย็นกลับได้ ทัน เคอร์ฟิว แต่ก็อยากจะฝากถึงท่านที่ไป ตลาดน้ำอัพวา ซึ่งเป็นตอนบ่ายถึงเย็น ก็ต้องรีบกลับด้วยเผื่อเวลากลับบ้าน ไม่อย่างนั้น อาจจะมีเสียวได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง