จับ 8 คนโพสต์ข่าวปลอมประกาศเคอร์ฟิวสร้างความสับสนตื่นตระหนก

 

               29 เมษายน 2563  พลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ ในฐานะหัวหน้าชุดประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 8 คน โพสต์ข่าวปลอม หรือ บิดเบือน สร้างความตื่นตระหนกและความสับสนในสังคม ในช่วงที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

อ่านข่าว - หมอทำขวัญหน้าหวาน น้ำตาล วริศรา ถูกแฮกเฟซ ปอท. ลงมือกู้คืนไม่สำเร็จ (มีคลิป)

 

 

               โดยหลังจากที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ได้ประสานงานกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับการเสนอข่าวปลอม หรือ บิดเบือน สร้างความตื่นตระหนกและความสับสนในสังคม ในช่วงที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปแล้วหลายราย

               ล่าสุด ตรวจพบอีก 8 ราย เป็นการกระทำความผิดระหว่างวันที่ 24 - 29 เม.ย. โดยรายที่ 1 - 7 ได้โพสต์ข้อความว่า “ประกาศเคอร์ฟิว 24 ชม. ทั่วประเทศ” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจจนพบตัวและดำเนินคดีแล้ว 5 ราย ประกอบด้วย 1. นางสาวปัทมาพร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pattamaporn ... จ.สุรินทร์ 2. นางสาวกาญจนาภรณ์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Namfon ... จ.สุรินทร์ 3. นางสาวสุวดี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก สุวดี ... จ.สกลนคร 4. นางสาวศศิธร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bag bag ... จ.ขอนแก่น 5. นางณัชอร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณัชอร ... จ.สุราษฎร์ธานี

 

               ส่วนอีก 2 ราย พบตัวแล้วอยู่ระหว่างดำเนินคดี ได้แก่ 1. นายสิทธิพร ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ขั้นเทพ ... จ.บึงกาฬ 2. นางสาววันนา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wanna ... จ.นครสวรรค์

               สำหรับรายที่ 8 ได้โพสต์ข้อความว่า “1 พ.ค. นี้ ชลบุรีจะกลับมาสู่ภาวะปกติ” คือ นางภัชราภรณ์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ภัชราภรณ์ ... จ.ชลบุรี

               ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว นางสาวปัทมาพร หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม พร้อมทนายความ ได้สมัครใจออกมาให้ข้อมูลและขอโทษสังคมกับสิ่งที่ได้โพสต์ลงไป โดยยืนยันว่าเมื่อเห็นข่าวก็ได้มีการก๊อปข้อความและนำมาแชร์ต่อโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบ และรู้เท่าทันไม่ถึงการณ์ว่าจะถูกจับกุม พร้อมฝากเตือนคนทั่วไปที่เจอข่าวต่างๆ ไม่ควรแชร์ หรือโพสต์ข่าวที่ได้ยินมา เพราะบางครั้งก็อาจเป็นข่าวลวง ซึ่งอาจจะทำให้ได้รับผลกระทบภายหลัง และก่อนโพสต์หรือก่อนแชร์ต้องคิดดูให้ดี

 

               พลตำรวจตรี พันธนะ บอกว่า ที่ผ่านมาตำรวจได้ร่วมกับกระทรวงดีอีเอสทำงานกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบและดำเนินการกับผู้ที่เสนอข่าวปลอม หรือ บิดเบือน โดยเฉพาะในช่วงที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยพบว่ายังมีผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดทั้งที่ตั้งใจและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงขอเตือนประชาชนว่า ก่อนที่จะโพสต์หรือแชร์ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง ต้องคิดให้ดีและตรวจสอบความถูกต้องเสียก่อน เพราะเมื่อทำไปแล้วถือว่าความผิดสำเร็จ ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ