ชาวบ้านนึกว่าของมีค่า เห็นนาฬิกาติดข้างกล่องซุกศาลา เก็บใส่ตะกร้าปั่นไปร้านค้า สุดท้ายเป็นระเบิด

 

 

 

 

วันที่ 27 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดเวลาวางไว้ศาลาพักร้อน หน้าวัดเทพสโมสร ริมถนนสระบุรี - หล่มสัก ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ แต่มีชาวบ้านไปพบจึงเก็บมาวางไว้ที่ร้านค้าภายในหมู่บ้าน จึงเดินทางไปตรวจสอบ จุดเกิดเหตุเป็นร้านค้า อยู่ในซอยเทศบาล 5 หมู่ที่ 1 ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ พบวัตถุต้องสงสัยเป็นกล้องกระดาษสีน้ำตาลยาวประมาณ 15 ซม.โดยมีนาฬิกาดิจิตอลติดอยู่ด้านข้างและต่อสายไฟเข้าไปภายในกล่อง วางอยู่กับพื้นดินหน้าร้านขายของชำ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำยางรถยนต์มาวางครอบไว้ พร้อมทั้งได้กันประชาชนออกจากพื้นที่เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายเนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ในแหล่งชุมชน จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ภ.จว.เพชรบูรณ์มาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่านาฬิกายังทำงาน เมื่อใช้เครื่องมือตรวจปรากฏว่าเครื่องมือได้ส่งสัญญาณว่ามีวัตถุต้องสงสัยอยู่ภายในกล่อง แต่ไม่สามารถเปิดกล่องได้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการระเบิด จึงได้ใช้วิธีการจุดระเบิดให้น้ำทำลายระบบวงจรระบิดภายในกล่อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากทำลายวงจรระเบิดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดEODได้เปิดเผยว่าระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดจริง และมีอุปกรณ์ครบ เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลา แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าน้ำหนักขนาดเท่าไหร่หรือตั้งเวลาให้ระเบิดเมื่อไหร่ ในเบื้องต้นได้เก็บหลักฐานทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป

 

 

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนมาเก็บหลักฐานและสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ส่วนในพื้นที่ไม่ได้มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีวัตถุประสงค์อะไร เป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้ก่อเหตุต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ด้าน นายประสบ ปิ่นตา อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 166/1 หมู่ 1 ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ ผู้พบวัตถุระเบิดคนแรกกล่าวว่าตนปั่นจักรยานออกมาจากวัดเพื่อที่จะมาหาเพื่อนที่ร้านค้าดังกล่าว เมื่อออกจากหน้าวัดจึงแวะสูบบุหรี่ที่ศาลาพักร้อนที่อยู่หน้าวัด ได้สังเกตเห็นกล่องกระดาษและมีนาฬิกาติดอยู่กับกล่องพร้อมสายไฟ แต่ไม่มีเจ้าของตนจึงเก็บใส่ตะกร้าหน้ารถจักรยานโดยตั้งใจไว้ว่าจะนำไปแกะเอานาฬิกาไว้ใช้เพราะเห็นว่ายังเดินอยู่ จากนั้นจึงปั่นมาที่ร้านค้าดังกล่าว เมื่อมาถึงจึงได้ให้ช่างที่มีความรู้ดู จึงสงสัยว่าจะเป็นระเบิด จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดเพชรบูรณ์