หนุ่มสกลซิ่งรถหนีตร.ข้ามจังหวัดก่อนถูกวิสามัญ ญาติเผยไม่น่าใช่เหตุง้อแฟนแต่เหตุเป็นเรื่องอื่น

จากกรณีที่ นายจเด็ด สมสอง อายุ 28 ปี อดีตพนักงานช่างซ่อมรถ ได้พกอาวุธปืนเข้าไปข่มขู่พนักงานในโชว์รูมรถยนต์นิสสัน สาขาสว่างแดนดิน และโชว์รูมรถยนต์โตโยต้า เบสท์ สาขาสว่างแดนดิน เขตเทศบาล ต.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ลักษณะมีอาการคุ้มคลั่ง เมื่อช่วงสายของวันที่ 21 เม.ย.2563  ก่อนจะขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สว่างแดนดิน หลังรับแจ้งเข้ามาระงับเหตุ  โดยนายจเด็ดได้ขับรถยนต์ข้ามเขตรอยต่อเข้าไปพื้นที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ตามเส้นทางถนนนิตโย สายสกลนคร - อุดรธานี จนเกิดการยิงต่อสู้กัน ทำให้นายจเด็ด ถูกอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเสียชีวิต ห่างจากจุดเกิดเหตุโชว์รูมรถยนต์ไปประมาณ 30 กิโลเมตร ในพื้นที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

  (23 เม.ย.2563) คืบหน้าของคดี ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผกก.สภ.สว่างแดนดิน กล่าวว่า รายละเอียดของคดี ทางพนักงานสอบสวน ยังเร่งสรุปสำนวนสอบปากคำของพนักงานโชว์รูมทั้งสองบริษัท เพื่อหามูลเหตุจูงใจในการเข้ามาก่อเหตุ จนเป็นชนวนนำไปสู่การไล่จับกุมและวิสามัญมาตกรรม แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ส่วนประเด็นยังไม่ตัดไปทั้งปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ปัญหาความรัก

บรรยากาศที่โชว์รูมรถยนต์นิสสัน และรถยนต์โตโยต้าเบสท์ สาขาสว่างแดนดิน พนักงานยังมาทำงานตามปกติและไม่ยอมให้รายละเอียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้เหตุผลว่า ทางผู้บริหารจะเป็นผู้ให้ข้อมูลเอง โดยล่าสุด บริษัท โตโยต้าเบสท์ ผู้จำหน่ายรถยนต์โตโยต้า จำกัด  ได้ออกหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว มีใจความว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯขอชี้แจงว่า บุคคลดังกล่าวชื่อ นายจเด็ด สมสอง ซึ่งเคยเป็นอดีตพนักงานเก่าของบริษัทฯ แต่ได้พ้นสภาพจากพนักงานไปตั้งแต่ ปี 2559 โดยบริษัทฯสืบทราบว่า นายจเด็ด มีอาการป่วยทางจิตไม่ปกติมาระยะหนึ่ง และมักจะเข้ามาข่มขู่พนักงานของบริษัทฯอยู่บ่อยครั้ง และเหตุการณ์ล่าสุด 21 เมษายน 2563 นายจเด็ด สมสอง ได้มีอาการคลุ้มคลั่งและพกปืนเข้ามาที่บริษัทฯ ทำให้พนักงานตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้า ที่ตำรวจ ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้ยืนยันว่า ไม่มีเหตุการณ์การใช้อาวุธปืนยิงกันภายในบริษัทและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการข่มขู่ของนายจเด็ด ทางบริษัทฯจึงจำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว

ด้านบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 503 หมู่ 12 บ.โคกสว่างพัฒนา ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พบว่า ญาติและเพื่อนบ้าน ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้เจอผู้ตายมาหลายเดือน  แต่ตอนนี้ทำได้คือช่วยกันเตรียมสถานที่บริเวณใต้ถุนบ้าน ไว้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา แต่ยังไม่ทราบว่า จะนำศพมาตั้งได้ตอนไหน เพราะยังรอขั้นตอนการผ่าตรวจพิสูจน์อยู่ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น จากสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า นายจเด็ด ปกติก็เป็นคนนิสัยดี ไม่ค่อยพูด และไม่สุงสิงกับใคร ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านแม่ และพี่สาวพักอาศัย ส่วนพ่อได้แยกกันกับแม่ไปแล้วหลายปี

นางสุภาพร สมสอง อายุ 30 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า นายจเด็ด หรือ เล็ก แต่เพื่อนมักจะเรียกว่า ช่างช้าง  เพราะรูปร่างสูงใหญ่ หลังเรียนจบ รร.ช่างแห่งหนึ่ง ก็มาทำงานที่โชว์รูมรถยนต์ทั้งสองแห่งจริง ก็ทำงานปกติดี แต่พักหลังนายจเด็ด น้องชายตนเอง ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ซึ่งปกติก็เป็นคนไม่ค่อยพูด หรือนำปัญหาส่วนตัว หรือเรื่องงานมาปรึกษาครอบครัวอยู่แล้ว  โดยนายจเด็ด หรือช่างช้าง จะไปพักอาศัยคนเดียวอยู่ที่บ้านสวน แต่ก็ยังไปมาที่บ้านแม่ตามปกติ ระยะหลัง 1-2 ปี น้องชายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ทางครอบครัวได้นำตัวไปรักษาและกินยารักษามาต่อเนื่อง จนต้องออกจากงาน  ล่าสุดประมาณต้นปี 2563 ทางญาติกำลังเตรียมจะพานายจเด็ด ไปพบหมอตามนัด  แต่น้องชายมักบ่นว่า ไม่อยากไปหาหมอ ไม่อยากกินยา เพราะกินแล้วจะต้องนอน ไม่สามารถทำอะไรได้  ก่อนจะออกจากบ้านไปโดยอ้างว่าจะไปหาทำงาน และหายตัวไปพร้อมกับรถยนต์เก๋งของนายจเด็ด รถคันเดียวกับที่ขับไปก่อเหตุ  และหายจากบ้านไปประมาณ 3 เดือน ตนเองและแม่ ก็ไม่สามารถติดต่อน้องชายได้ โทรศัพท์ไปก็ไม่ติดต่อกลับมา จนมาทราบอีกทีตามสื่อต่างๆว่า น้องชายไปก่อเหตุจนถูกตำรวจไล่จับและถูกวิสามัญฆาตกรรม

นางสาวสุภาพร พี่สาวช่างช้าง บอกว่า สาเหตุหรือแรงจูงใจในการเข้าไปก่อเหตุ ทางครอบครัวไม่ทราบ ส่วนประเด็นที่มีการบอกว่า วันเกิดเหตุเข้าไปก่อกวนเพื่อตามขอคืนดีกับแฟนสาวนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะตั้งแต่เรียนจบมาทำงาน นายจะเด็ด ไม่เคยเอ่ยปากว่าคบกับใครอยู่ หรือพาแฟนมาที่บ้าน อาจจะเป็นปัญหาเรื่องส่วนตัว ถามว่าติดใจหรือไม่กับที่ช่างช้างถูกตำรวจจับตาย  ซึ่งพี่สาว บอกว่า หากความจริงตามที่ออกมาตามข่าว มีการไล่ตามและต่อสู้กัน ตนเองก็ไม่ติดใจ แต่อยากถามว่า หากจะล้อมจับหรือสกัดด้วยการยิงยางรถให้หยุด จะเป็นทางออกที่ดีกว่าหรือไม่ แต่ก็อยากจะฟังในมุมของตำรวจด้วยเช่นกัน ส่วนอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ พี่สาวช่างช้าง บอกว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าน้องชายมีปืน หรือจะไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ภาพที่มีในคลิป ที่มีการนำอาวุธปืนหลายกระบอก รวมถึงมีระเบิดในรถ ออกมาตรวจสอบ หากเป็นปืนสัก 1 กระบอก ตนเองก็เชื่อ แต่ภาพมีปืนหลายกระบอกนั้น น้องชายจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ลำพังเงินใช้ชีวิตส่วนตัวก็แทบจะไม่มี  ทั้งนี้ภาพในคลิปดังกล่าว เป็นคลิปเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่ทางโชเชียล ว่ามีการยึดอาวุธปืน หลังจากมีการยิงปะทะกัน และมีการตรวจค้นรถ มีภาพปืนหลายกระบอกนั้น เบื้องต้นอาจเกิดความสับสนกับทางญาติ  แต่พบว่าส่วนหนึ่งเป็นอาวุธปืนประจำตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามจับกุม ที่นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

   ทวีป  ศรีสุชาติ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สกลนคร