ข่าว

พ่อติดโควิดจากลูก หลังกลับจากเมืองนอกไม่ยอมกักตัว ล่าสุดแม่โคม่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พ่อติดโควิดจากลูก หลังกลับจากเมืองนอกไม่ยอมกักตัว ล่าสุดแม่โคม่า

 

 

            วันที่17 เมษายน 2563 มีเฟซบุ๊กชื่อ Aum Sureewan ได้โพสต์เคสตัวอย่างของการไม่กักตัวไว้ว่า จากกรณีผู้ป่วย Civid19 ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น รายที่5และที่6 คุณตาคุณยายสองสามีภรรยา ที่มีอาชีพทำนาอยู่ตามบ้านนอก หาเช้ากินค่ำ และมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
 

 

 

                    แล้วอยู่ดีๆวันนึง คุณตาคุณยายต้องมาป่วยด้วยโรคโควิด19 ทั้งที่ภาระกิจแต่ละวัน ก็เเค่ ตื่นเช้าเดินลงทุ่งนา ตอนเย็นก็กลับบ้านนอน ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ สุดท้ายมันก็มีคนเห็นแก่ตัว มักง่าย ลูกชายแท้ๆที่เอาเชื้อโรคมาแพร่ให้คนในบ้าน (ถ้าคุณจะบอกว่าคุณไม่รู้ คุณไม่ได้ตั้งใจ แต่ประวัติการเดินทางของคุณ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว กลับจากต่างประเทศ กลับบ้าน เที่ยวพัทยา กลับบ้าน แม่ป่วยบุคลากรต้องกักตัวเอง เพราะคุณปกปิดข้อมูล เกือบร้อยคน
     คุณรู้ไหมตอนนี้คุณยายอาการโคม่า คุณตายังตอบสนองได้ดีต่อการรักษา แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ รพ.ขอนแก่น  ถือเป็นกรณีตัวอย่างได้ดีมาก ในเรื่องของการให้ความสำคัญ ของ การกักตัวเอง14วัน_อย่างเคร่งครัดและไม่ปกปิดข้อมูล แต่ทำไมเวลา จนท.ไปบอกหรือเตือนหรือแค่ขอความร่วมมือ เราต้องมาโดนคุณ(บางคน)ด่า ตะคอกใส่ ทุกครั้งที่ออกพื้นที่ไปหาคุณ เราแทบคลานแทบหมอบ ไหว้ไปตั้งแต่ประตูบ้าน ไม่ใช่กลัวโรค แต่เราต้องการแสดงถึงความเป็นมิตร อยากลดความตื่นกลัว ตื่นตระหนก

 

 

 

                     แต่หลายๆครั้ง ที่เราต้องมาได้ยินคำพูดเดิมๆซ้ำๆ ยกตนข่มท่านใส่ ฉันไม่ได้ป่วย ฉันไม่มีไข้ ฉันตรวจมาแล้ว ฉันกักตัวมาแล้ว ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง มาบอกฉันให้กักตัวคุณไปบอกคนอื่นให้ได้ก่อน ทุกคำพูด ส่อไปถึงความเห็นแก่ตัวล้วนๆ แล้วไง เพราะคำพูดเหล่านี้ไหม ที่ทำให้พ่อแม่ คนที่คุณรัก อาจจะต้องมาเสียชีวิต เพราะความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของคุณ คุณคิดว่า!! การใส่ชุดแบบนี้ เดินตามบ้าน ทุ่งนา สวน กลางแดดเปรี้ยงๆ มันสนุกนักหรอ คิดว่าเราอยากจะทำหรอ ดูเหมือนพวกเราไม่เดือนร้อน ไม่ได้รับผลกระทบ คุณคิดว่าพวกเราได้เบี้ยเลี้ยง ได้ค่าตอบแทนหรอ ไม่มีค่ะ ขนาดชุด วัสดุอุปกรณ์ ยังขอรับบริจาค แล้วตอนนี้คุณรู้ไหม บุลาการทางการแพทย์1คน ต้องดูแลประชากรหลักหมื่น คุณคิดว่าเราจะทนแรงต้านไหวไหม แต่สุดท้ายแล้ว เราทุกคนก็ต้องสู้ต่อ เพราะมันคือหน้าที่ ไม่ไหวเมื่อไหร่ก็แค่ตาย แต่!!ฉันขอตาย โดยที่ ให้ญาติได้นิมนต์พระมาสวด ให้ญาติได้เห็นหน้าฉันก่อนเผา ให้ญาติได้ยินเสียงฉันร่ำรา ให้เราได้กอดกันจนวินาทีสุดท้าย ฉันไม่อยากตายแบบโควิด19 จากเสียงของบุคลากรเล็กๆที่นายอาจจะมองไม่เห็นคุณค่า


โพสต์นี้ไม่ได้มีเจตนาตำหนิใครหรือว่าใคร แค่อยากยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน และอยากให้ทุกคนตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมาให้ นึกถึงคนที่เรารักให้มากๆนะคะ ฝากไว้ให้คิด

 

ขอบคุณ Aum Sureewan 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ