
อัยการเอกฉันท์ไม่อุทธรณ์คดี "โอ๊ค"ฟอกเงินแบงก์กรุงไทย
อัยการเอกฉันท์ไม่อุทธรณ์คดี "โอ๊ค" ฟอกเงินแบงก์กรุงไทย รอ "ดีเอสไอ" เห็นแย้งหรือไม่
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการอุทธรณ์คดีนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีร่วมกันฟอกเงิน10 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทยฯที่ปล่อยกู้ให้เครือกฤษดามหานคร ว่า คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาให้ยกฟ้องนายพานทองแท้ ทางอัยการคดีพิเศษซึ่งเป็นผู้ดำเนินคดีก็ตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีนี้
"คณะทำงานของสำนักงานอัยการคดีพิเศษได้พิจารณาคำพิพากษาอย่างละเอียดแล้วเห็นว่า คำพิพากษาของศาลชอบแล้วที่ยกฟ้อง จึงเสนอความเห็นไม่สมควรอุทธรณ์คดีไปที่สำนักงานอัยการคดีศาลสูง สำนักงานคดีศาลสูง โดยนายมนต์ชัย บ่อทรัพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง พิจารณา ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 คน ร่วมกันพิจารณาคำพิพากษาที่สุดแล้ว เห็นพ้องต้องกันเป็นเอกฉันท์ ว่า คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตฯที่ยกฟ้องนายพานทองแท้ว่า ไม่ได้กระทำผิด นั้น ชอบแล้ว พูดง่ายๆ คือทั้งอัยการคดีพิเศษและอัยการคดีศาลสูงเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตฯ ที่ยกฟ้อง ก็เลยเสนอสำนวนไปที่ดีเอสไอ ต่อไปก็อยู่ที่ขั้นตอนของดีเอสไอ ส่วนรายละเอียดความเห็นของคณะทำงาน อะไรอย่างไร นั้น เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด จึงไม่สามารถที่จะลงไปในรายละเอียดได้ แต่หลักใหญ่ที่ตอบได้คือ คณะของอัยการเห็นด้วยกับการตัดสินของศาล” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว
นายประยุทธ กล่าวถึงขั้นตอนขณะนี้ด้วยว่า อยู่ระหว่างที่ดีเอสไอจะพิจารณาเห็นแย้งหรือเห็นด้วย ถ้าดีเอสไอเห็นด้วยกับอธิบดีอัยการศาลสูงก็จบ ไม่ต้องไปถึงอัยการสูงสุด เพื่อชี้ขาด แต่หากดีเอสไอเห็นแย้งว่า สมควรยื่ยอุทธรณ์คดี สำนวนและความเห็นของทุกฝ่ายจะเสนอไปถึงอัยการสูงสุด ทำความเห็นชี้ขาดเป็นคนสุดท้ายว่า จะอุทธรณ์คดีหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีหากประชาชนรู้สึกข้องใจความเห็นของอัยการ จะต้องมีการแถลงชี้แจงรายละเอียดต่อไปหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ที่ศาลยกฟ้องโดยคำพิพากษาของศาล ศาลตัดสินอย่างไรท่านพิจารณาโดยความบริสุทธิ์ยุติธรรมอยู่แล้ว สิ่งที่อัยการเราเห็นก็คือสิ่งเดียวกับที่ศาลท่านยกฟ้อง กระบวนการทั้งหมดมีการตรวจสอบละเอียด รอบคอบ รัดกุมอยู่แล้ว โดยเฉพาะการที่ศาลท่านตัดสินมาอย่างนั้นก็แสดงว่าศาลท่านดูละเอียดแล้ว