ผู้ป่วยโควิดในจ.ศรีสะเกษ หายดีกันหมดแล้ว

ผู้ป่วยคิดเชื้อโควิด -19 ใน จังหวัดศรีสะเกษ สะสมจำนวน 8 ราย หายดีหมดแล้ว รพ.ศรีสะเกษ ดูแลรักษาต่ออีกเพียง 1 ราย เจ้าตัวแสดงความประสงค์ขออยู่ต่ออีกสักวัน ขณะที่ศูนย์ตรวจคัดกรองยังทำงานต่อ ผู้ว่าฯ นำคณะไหว้บวงสรวงหลักเมืองเนื่องในปีใหม่ขอให้ประชาชนรอดพ้นจากภัยร้ายทั้งปวง

อ่านข่าว ไทยติดเชื้อเพิ่ม 28 ราย ยอดสะสม 2,579 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย

                          วันที่ 13 เมษายน 2563 ที่ ศาลหลักเมืองศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนจำนวนหนึ่ง ได้มาร่วมพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองศรีสะเกษ ตามจารีตประเพณีตั้งแต่โบราณกาลที่ผ่าน รับตั้งแต่มีการสร้างศาลหลักเมืองมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2530 จนปัจจุบัน ในวันขึ้นปีใหม่ไทย 13 เมษายน ของทุกปี ได้จัดให้มีการพิธีไหว้บวงสรวงศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลของพี่น้องประชาชนคนศรีสะเกษ ซึ่งในระยะนี้ พี่น้องประชาชนคนทั่วโลกกำลังเผชิญต่อสู้อยู่กับการเอาชนะโรคร้าย ไข้โควิด-19 ที่จะต้องรวมใจเป็นหนึ่งในการรู้รักสามัคคี หลอมรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต้องมีสติ ต้องมีปัญญา มีสุขภาพกายที่ดี มีสภาพกายที่เข้มแข็ง ศาลหลักเมืองศรีสะเกษ ถือเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนทั่วไป ไม่ว่าจะเริ่มต้นทำงานใหม่ ขอพรไปเป็นกำลังใจในการสอบเข้าทำงาน สอบเลื่อนขั้น ขอพรให้พ้นภัยร้ายต่าง ๆ ประชาชนก็มักจะมาขอพรศาลหลักเมืองแห่งนี้ และในวันนี้พ่อเมืองศรีสะเกษได้มาไหว้ขอพร ให้ชาวจังหวัดศรีสะเกษ รอดพ้นจากภัยร้ายทั้งปวง โดยเฉพาะภัยจากไข้โควิด พร้อมนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยไข้โควิดสะสมในจังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 8 ราย ขณะนี้หายหมดแล้ว กลับบ้านไปแล้ว 7 ราย เหลืออีกคน หมออนุญาตให้กลับบ้านไปพักต่อ 14 วัน แต่เจ้าตัวสมัครใจขออยู่ต่ออีก 1 วันจะกลับ

                              นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลศรีสะเกษได้แจ้งมาว่าขณะนี้ ผู้ป่วยไข้โควิดสะสมในจังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 8 ราย ขณะนี้หายหมดแล้ว กลับบ้านไปแล้ว 7 ราย เหลืออีกคน หมออนุญาตให้กลับบ้านไปพักต่อ 14 วัน แต่เจ้าตัวสมัครใจขออยู่ต่ออีก 1 วันจะกลับ และในระยะนี้จังหวัดศรีสะเกษยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงระยะเทศกาลสงกรานต์ อยากจะให้พี่น้องชาวศรีสะเกษลดการพบปะกัน ตามมาตรการต่าง ๆ ก็ยังคงประกาศไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 สอดคล้องกับพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้