ด่วน ผู้ว่าแม่ฮ่องสอนสั่งปิดโรงแรมทั่วทั้งจังหวัด

 

   

 

 

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 นายสุวพงศ์  กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ลงนามในคำสั่ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ 0737 / 2563 เรื่องปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อของโรคติดต่ออันตราย เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้ออันตรายไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรค COVID 19 ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลกโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง  ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  หรือโรค COVID 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2563

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จังหวัดแม่ฮ่องสอน ข้อมูล ณ วันที่ 7 เมษายน 2563 พบผู้ติดเชื้อจำนวน 5 คน ประกอบจังหวัดใกล้เคียงพลผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและจากนอกพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เข้ามายังพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางจังหวัดจึงต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันและควบคุมมิให้มีการแพร่กระจายของเชื้อโรค  อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 2(3) ของข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2563 (ฉบับที่ 1)ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 จึงออกคำสั่งไว้ดังนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1.ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดต่ออันตรายเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะประกาศเป็นอย่างอื่นฯ ได้แก่โรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ทุกประเภท  ยกเว้นโรงแรมที่ราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่พักเพื่อสังเกตการฯ  กรณีโรงแรมที่มีผู้เข้าพักอยู่ก่อนคำสั่งนี้ ให้ผู้ที่เข้าพักสามารถเข้าพักต่อไปจนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องพักจนหมด แล้วให้ปิดทันทีโดยมีให้มีการรับผู้เข้าพักเพิ่มอีก ให้นายอำเภอทุกอำเภอ กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการสอดคล้องกับคำสั่งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ มีฐานความผิดตามาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษจำคุก ไม่เกิน  1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน  1  แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ หรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.กำหนดการบริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เกียรติศักดิ์  รักสัตย์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค แม่ฮ่องสอน