
ตร.สน.วัดพระยาไกรเครียดยิงตัวเองดับคาแฟลต
เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 23 ธ.ค. พ.ต.ท.สฤษดิ์ สินธ์นะศรี พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตัวตาย ภายในแฟลตสวัสดิการตำรวจ ด้านหลัง สน.วัดพระยาไกร ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.
จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นแฟลตสวัสดิการตำรวจ ตึกที่ 3 มีความสูงทั้งหมด 5 ชั้น จากการตรวจสอบในห้องพักเลขที่ 385/14 ชั้นที่ 3 พบศพ จ.ส.ต.รังสรรค์ ฤทธิแผลง อายุ 39 ปี สังกัด ผบ.หมู่ (ป.) สน.วัดพระยาไกร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นตำรวจรักษาความปลอดภัยประจำศาลแพ่งกรุงเทพใต้ สภาพศพ นอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องนอน ท่อนบนเปลือยเปล่า นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับข้างขวาในระยะประชิดกระสุนทะลุออกขมับข้างซ้าย จำนวน 1 นัด ใกล้มือข้างขวาผู้ตายพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ จำนวน 1 กระบอก มีกระสุนค้างอยู่ในลูกโม่ 5 นัด และปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วอีก 1 นัด นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน จ.ส.ต.จบ มั่นบรรจง ผบ.หมู่ (ป.) สน.วัดพระยาไกร ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องของผู้ตาย ให้การว่า ตามปกติที่ห้องนี้จะมีตำรวจพักอาศัยรวมอยู่ด้วยกัน 3 คน คือตน จ.ส.ต.รังสรรค์ ผู้ตาย และ ร.ต.อ.วงกต สุวรรณวัฒน์ รอง สวป.สน.ลุมพินี โดยแบ่งแยกพื้นที่กันไว้ใช้หลับนอนอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งในช่วงเช้าของทุกวันต่างคนก็จะแยกย้ายกันไปทำงาน แต่เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ขณะที่ตนเข้าเวรอยู่ที่โรงพัก จู่ๆ จ.ส.ต.รังสรรค์ ก็โทรศัพท์เข้ามือถือมาบอกตนว่า “ไอ้จบกูไม่ไหวแล้ว” ก่อนที่จะวางสายไปโดยตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งตนย้อนกลับไปเอารองเท้าให้ลูกชายที่ห้องพักตอนบ่าย เมื่อไขกุญแจเปิดเข้าไปในห้องพบว่า จ.ส.ต.รังสรรค์ ได้รื้อค้นอาวุธปืนซึ่งเป็นของตนที่วางไว้บนตู้เสื้อผ้าก่อเหตุยิงตัวตายไปแล้ว จึงรีบแจ้งให้พนักงานสอบสวนรุดขึ้นมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
จ.ส.ต.จบ กล่าวอีกว่า สำหรับอาวุธปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่ตนซื้อเอาไว้ตั้งแต่ช่วงเรียนจบพลตำรวจ ที่ จ.นครราชสีมา ใหม่ๆ แต่พอตนย้ายมาประจำการที่ สน.วัดพระยาไกร ก็ทำเรื่องเบิกอาวุธปืนของทางราชการเอาไว้ใช้ และซุกซ่อนปืนกระบอกนี้เอาไว้บนตู้เสื้อผ้า ไม่คิดว่า จ.ส.ต.รังสรรค์ จะไปรื้อค้นนำมาก่อเหตุยิงตัวตาย อย่างไรก็ตามสำหรับชนวนเหตุที่เกิดขึ้นตนคาดว่า จ.ส.ต.รังสรรค์ น่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องหนี้สินค่าพนันบอลจำนวนมาก ที่ผู้ตายยังชดใช้ไม่หมดทั้งที่เลิกเล่นไปนานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่วันตนได้ยินว่า แม่ของผู้ตายจะเดินทางจาก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อมาหาที่แฟลตด้วย แต่ จ.ส.ต.รังสรรค์ ไม่ยอมให้มาอ้างว่าจะหาเงินค่ารถไปเยี่ยมแม่เอง ซึ่งอาจเป็นเพราะที่ผ่านมาคนในครอบครัวต้องกู้หนี้ยืมสินมาชดใช้ค่าพนันให้จึงเกิดเรื่องเดือดร้อนจน จ.ส.ต.รังสรรค์ คิดไม่ตกใช้อาวุธปืนยิงตัวเองดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สามารถ ศรีม่วงกลาง สวป.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นข้าราชการตำรวจ สน.วัดพระยาไกร มานานสิบปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเพิ่งถูกเปลี่ยนให้ไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้ประมาณ 3-4 ปี ในเวลาปกติก็ผู้ตายก็เป็นคนร่าเริงดี แต่ตนก็พอจะทราบว่าในอดีตผู้ตายเคยติดหนี้พนันบอล และได้เลิกเล่นไปแล้ว โดยพยายามหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งเพื่อคลายเครียดทุกวันตอนเย็นไม่คาดคิดว่าจะตัดสินใจก่อเหตุในทำนองนี้ได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ส่งมอบศพ จ.ส.ต.รังสรรค์ ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช ทำการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำโทรศัพท์มือถือของกลางส่งให้ฝ่ายสืบสวน นำไปตรวจเช็คข้อมูลว่า ผู้ตายได้ติดต่อใครบ้างในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ จากนั้นจะเชิญญาติพี่น้อง และบุคคลใกล้ชิดมาสอบปากคำเพื่อสรุปสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับห้องเลขที่ 385/14 ห้องนี้เคยมีคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาจนเสียชีวิตคาห้องมาแล้วเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา จึงทำให้ชาวบ้านต่างร่ำลือกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าอาจเกิดจากความอาถรรพ์ของห้องแห่งนี้ก็เป็นได้