
ทอ.ส่งทีมสอบบินขับไล่เอฟ5อีตกที่อุบลฯดับ1
ทอ.ส่งทีมสอบเหตุเครื่องบินขับไล่เอฟ 5 อี ตกที่บริเวณฝายน้ำล้น อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต 1 ราย
เหตุเครื่องบินรบชนิด เอฟ 5 อี ของกองบินที่ 21 อุบบราชธานี เกิดอุบัติเหตุตกครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น.ที่บ้านแก่งเค็ง ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี บริเวณฝายน้ำล้น ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน โดยตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 300 เมตร โดยเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศแบบ18ข./ค เอฟ 16E ตกลงบริเวณฝายน้ำล้นเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
นายหนูกร บุญฉวี อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 56 หมู่ 10 ต.เกษม อ.ตระการพืชผล กล่าวว่า ในขณะที่ตนกำลังรับจ้างอัดฟางให้กับชาวบ้าน โดยอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ได้เห็นเครื่องบินรบจำนวน 2 ลำ บินคู่กันมาจากทางด้านตัวเมืองอุบลราชธานี มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ด้วยความเร็วสูง แล้วสักครู่พบว่าเครื่องบินอีก 1 ลำบินมาในลักษณะหมุนเป็นเกลียวคล้ายเสียหลัก มีควันสีดำพุ่งออกมาจากตัวเครื่อง พร้อมกับดิ่งต่ำลงมาแล้วพุ่งชนเข้ากับคันฝายน้ำล้นเสียงดังสนั่น และเมื่อสิ้นเสียงดัง มีเศษดินและน้ำพุ่งกระจายไปรอบๆฝาย โดยน้ำที่พุ่งขึ้นขนาดความสูงเท่ากับปลายต้นไม้ใหญ่ประมาณ 6 เมตร ตนพร้อมกับเพื่อนบ้านจึงได้เข้าไปดู ปรากฎว่าไม่มีซากของเครื่องบินหรือคนแต่อย่างใด พบแต่เศษของเครื่องบินชิ้นเล็กๆ เพียง 10 กว่าชิ้นกระจายอยู่ตามพื้น และลอยอยู่ในน้ำเท่านั้น โดยคันฝายแห่งนี้กว้างประมาณ 30 เมตร ยาวประมาณ 40 เมตร น้ำลึกประมาณ 1 เมตร
พ.ต.ท.สมคิด ฉากครบุรี สวป.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า จุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากสภ. 6 กิโลเมตร หลังจากทราบเรื่อง ได้รายงานให้พ.ต.ท.กรุงไกร เปลี่ยนเพ็ง รอง ผกก. ปป.สภ.กุดข้าวปุ้น จากนั้นได้ประสานไปยัง นายอำนาจ เทียนบำหยัด นายอำเภอกุดข้าวปุ้น เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ พบน้ำบนถนนเปียกกระจาย และพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินชิ้นเล็กๆ เพียง 10 กว่าชิ้นเท่านั้น แต่ไม่พบซากของเครื่องบินแต่อย่างใด และน้ำในฝายขุ่นข้น
นายทหารอากาศประจำกองบินที่ 21 อุบลราชธานี รายหนึ่ง เปิดเผยว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินรบ ชนิด เอฟ 5 อี มีนักบินประจำเครื่อง 1 นาย คือ เรืออากาศโท ชัชวาลย์ รัศมี อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ เพิ่งจบใหม่และเข้ามาประจำการอยู่ที่กองบินที่ 21 และการฝึกบินครั้งนี้เป็นการฝึกเพื่อเก็บชั่วโมงบิน และอยู่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และเบื้องต้นคงต้องสูบน้ำออกจากฝายให้หมดเสียก่อน เพื่อตรวจสอบหาซากของเครื่องบิน และเชื่อว่านักบินประจำเครื่องคงเสียชีวิตแล้ว
สำหรับเครื่องบินขับไล่ แบบ 18ข./ค เอฟ 5 อี เป็นเครื่องบินขับไล่ไอพ่นความเร็วเหนือเสียง บรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศครั้งแรกที่กองบิน 1 เมื่อปี พ.ศ.2521ใช้เป็นเครื่องบินขับไล่ยุทธวิธีที่ปฏิบัติได้ทั้งภารกิจสกัดกั้นและการโจมตีทางอากาศ และเข้าประจำการที่ฝูงบิน211 กองบิน 21 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศตั้งแต่ พ.ศ.2537 ถึงปัจจุบัน และก่อนหน้านี้เครื่องบินขับไล่เอฟ5 อี ประจำกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี เคยเกิดอุบัติเหตุตกและมีผู้เสียชีวิต.
รายงานข่าวแจ้งว่า เรือโทชัชวาลย์ รัศมี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 42 นักเรียนนายเรืออากาศ รุ่น 49 สมรสแล้ว ซึ่งภรรยากำลังตั้งครรภ์ เรืออากาศโท ชัชวาล รัศมี เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในด้านการบิน เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งถือได้ว่า เป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถของกองทัพอากาศ และยังเป็นที่รักใคร่ของทุกคนในกองบิน
ส่วนเครื่องบิน F5E ลำที่ตกมีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปี มีระบบการบำรุงรักษาที่มีมาตรฐานและมีการตรวจสอบตลอดระยะเวลาการใช้งาน ปัจจุบันก็ยังปฏิบัติงานตามมาตรฐานของกองทัพอากาศ
ทอ.ส่งทีมสอบเหตุเอฟ5ตกที่จ.อุบลฯ
น.อ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุเครื่องบินเอฟ 5 ตกที่ จ.อุบลราชธานีว่า เบื้องต้นทราบว่า เครื่องบิน เอฟ 5 หรือเรียกว่า รุ่น 18 ข/เอฟ 5 อี อยู่ที่ฝูงบิน 211 กองบิน 21 จ.อุบลราชานี ตก ที่จ.อุบลราชธานี ซึ่งเครื่องบินเป็นที่นั่งเดียว ขับโดย ร.ท.ชัชวาลย์ รัศมี ซึ่งเป็นการฝึกบินตามวงรอบปกติ โดยเครื่องตกเวลา 11.55 น. ที่ข้างถนนใกล้หนองน้ำ อ.โนนข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี โดยนักบินเสียชีวิตทันที อย่างไรก็ตามกองทัพได้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบไปยังพื้นที่ เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเครื่องบิน F 5 ที่ประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 211 จังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวน 14 เครื่อง แบ่งเป็น F 5 E (2 ที่นั่ง) จำนวน 11 เครื่อง ประสบอุบัติเหตุวันนี้(23 ธ.ค.) จึงเหลือ 10 เครื่อง และ F 5 F จำนวน 3 เครื่อง โดยบรรจุเข้าประจำการครั้งแรกที่กองบิน4 อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อปี 2524 และโอนมาประจำการที่กองบิน 211 เมื่อปี 2537 นอกจากนี้ยังมีประจำการอยู่ที่กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 12 เครื่อง แบ่งเป็น F 5 B ( 2 ที่นั่ง) ซึ่งเป็นรุ่นแรก เข้าประจำการเมื่อปี 2520 จำนวน 1 เครื่อง และ F 5 E (1 ที่นั่ง) จำนวน 11 เครื่องเข้าประจำการปี 2521 และกองทัพอากาศเตรียมปลดประจำการทั้งฝูง เมื่อเครื่องบินขับไล่กริพเพน 3 เครื่องแรกเข้าประจำการเดือนมกราคม และอีก 3 เครื่องจะเข้าประจำการเดือนมีนาคม2554 ทั้งนี้ จากการที่กองทัพอากาศสามารถจัดซื้อกริพเพนได้เพียงครึ่งฝูง จึงยังไม่สามารถปลดประจำการเครื่องบิน F 5 ที่กองบิน 7 ซึ่งมีอายุกว่า 30 ปีได้ทั้งหมด