ข่าว

โควิดเดิมพันอนาคต "บิ๊กตู่" หยุดเกมการเมือง ทำตามมาตรการรัฐ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จตุพร" เชื่อไวรัสโควิด-19 เป็นเดิมพันอนาคต "รบ.ประยุทธ์" ขอ ปชช.ทุกส่วนหยุดเกมการเมือง ร่วมสร้างพลังสามัคคีปฏิบัติตามมาตรการรัฐ หนุนให้คนไทยรอดจากโรคร้าย ยันเป็นชัยชนะก้าวผ่านพ้นไวรัสได้แท้จริง ลั่นถ้ามาตรการล้มเหลวรัฐบาลต้องรับผิดชอบทุกกรณีที่ประกาศ

 

 

          เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2563 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์ ซึ่งวันนี้เป็นครั้งแรกที่งดให้ประชาชนมาร่วมสังสรรค์ เพราะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล

 

          นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้ การต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 เป็นเดิมพันของประเทศไทย ชีวิตคนไทย และอนาคตของรัฐบาล หลายวันผ่านมาผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนล้วนทำหน้าที่กันเต็มที่ จึงขอคนไทยอยู่กับความเป็นจริง โดยปฏิบัติอย่างเดียวกันกับมาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมา แม้ไม่เห็นด้วยก็ตาม หากมาตรการล้มเหลวต้องเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล

 

          การแถลงวันนี้ มีคนติดเชื้อถึง 188 รวมยอดทั้งหมด 599 คน ดังนั้น โควิด-19 ลุกลามจนยากจะควบคุมกันได้ จนทำให้สภาพจิตใจของคนไทยย่ำแย่ลงอย่างมาก เมื่อผนวกกับการกักตุนหน้ากากจนขาดแคลนยิ่งทำให้หมดความเชื่อมั่นรัฐบาลอย่างมาก

 

          "คำว่าเจ็บแล้วจบ กับเจ็บๆคันๆของมาตรการยกระดับกันไปเรื่อยๆ กับการแก้ปัญหานี้ แม้บอกเปิดห้างสรรพสินค้า 12 เม.ย. แต่ผมเชื่อว่า เม.ย.ยังแก้ไขปัญหาโควิด-19 ไม่ได้ อีกทั้งสภาจะเปิดสมัยประชุม พ.ค. โรงเรียนจะเปิด มิ.ย. ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเปิดได้ ซึ่งไม่มีอะไรยืนยันว่า การระบาดของโควิด 19 จะยุติเมื่อไร

 

          นายจตุพร ย้ำว่า เรื่องโควิด-19 ต้องไม่เป็นเรื่องการเมือง และในสถานการณ์นี้ควรเลิกเล่นการเมือง เพื่อร่วมกันหาทางออก และเมื่ออำนาจอยู่กับรัฐบาลต้องตัดสินใจ หากผิดพลาดก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากโควิด-19 เป็นวิกฤตการณ์ใหญ่กว่าเรื่องการเมือง และคนไทยมีความรู้สึกไม่ปลอดภัย เกิดหวั่นวิตกไปทั่ว จนทำให้สถานการณ์ทางจิตใจเลวร้ายมาก

 

          อีกทั้ง รัฐบาลต้องตระหนักว่า ประชาชนมีความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลต้องแถลงถึงมาตรการต่างๆ ให้ชัดเจนและครบถ้วน รวมถึงงบประมาณอะไรไม่จำเป็นต้องวางไว้ก่อน เพราะไม่มีอะไรใหญ่ไปกว่าการแก้ไขปัญหาโควิด-19 อีกแล้ว

 

          “มาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลต้องคิดทำสงครามกับการให้คุณภาพชีวิตคนจะอยู่ได้อย่างไร ต้องเจรจากับกลุ่มทุนให้ลดกำไรลง รวมทั้งต้องออกมาตรการช่วยครอบครัวในช่วงตกงานกัน

 

          นายจตุพร ระบุว่า ในสถานการณ์ขณะนี้หน้าที่ของรัฐบาลต้องทำเรื่องโควิด-19 อย่างเดียว งบประมาณต้องใช้แก้ไขปัญหาอย่างเดียว การทำงานต้องไม่มีวันหยุด และคนไทยต้องปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาล

 

          สำหรับการตรวจไวรัสโควิด-19 นั้น อุปกรณ์การแพทย์ของ รพ.ศิริราช สำหรับตรวจไวรัสเพียง 500 บ. รัฐบาลต้องให้งบประมาณเพื่อให้คนได้ไปตรวจ ขอรัฐบาลอย่าไปเพิ่มภาระให้ประชาชนอย่างไม่จำเป็น ตลอดจนนายกรัฐมนตรีควรแถลงให้เป็นเรื่องๆ เพื่อคลายความวิตกกังวลของประชาชน

 

          "ถ้าพรุ่งนี้ตัวเลขคนป่วยพุ่งพรวดมากไปกว่าวันนี้ จะเกิดความโกลาหล ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น มาตรการต่างๆ รัฐบาลต้องตัดสินใจดีๆ หากผิดพลาดรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เมื่อการป้องกันคนภายในเป็นเรื่องยาก ถ้ามาตรการป้องกันคนที่มาจากภายนอกไม่ได้อีก การจัดการภายในก็ยิ่งลำบาก สิ่งที่น่าห่วงคือ คนที่ไม่รู้ว่า ตัวเองติดเชื้อโควิด-19 แล้วไปในที่ชุมชน"

 

          ถ้ารัฐบาล ยังคิดเป็นเรื่องปกติกันอยู่ ว่าการประชุม ครม.ต้องรอวันอังคารแล้ว คงเป็นเรื่องบ้าที่สุด เพราะโรคไวรัสระบาดไม่ได้รอหยุดเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้น การประชุม ครม.อย่ารอแค่วันอังคาร เราต้องฉีกออกจากกรอบเพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อทำสงครามกับโควิด-19

 

          นอกจากนี้ ตนขอให้กำลัง หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่กลไกรัฐทั้งหมด รวมทั้งคนเกี่ยวข้อง ต้องขอขอบคุณหมอ พยาบาล ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่หนัก สำหรับการแถลงแต่ละครั้งนั้นต้องตรงไปตรงมา บอกความจริงกับประชาชนให้ครบถ้วน แม้การประกาศแล้วทำให้เกิดความวิตกกังวลก็ตาม แต่รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมกันไปด้วยความระมัดระวัง

 

          รวมทั้งย้ำทิ้งท้ายว่า ในสถานการณ์ไทยขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมือง ต้องเป็นความสามัคคีกัน เพราะถ้าไปคนละทิศทาง ก็ไม่มีวันฟันฝ่าหรือข้ามพ้นไวรัสโควิด-19 ได้ เมื่อเราต้องการชนะคือทำให้คนไทยรอดให้ได้ต้องร่วมปฏิบัติตามมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ