ดาวโจนส์ปิดดิ่งกว่า 1300 จุด วิตกโควิด

        รายงานตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (18 มีนาคม ) ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 1,338.46 จุด หรือ -6.3% ปิดที่ 19,898.92 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 131.09 จุด หรือ -5.18% ปิดที่ 2,398.1 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วง 344.94 จุด หรือ -4.7% ปิดที่ 6,989.84 จุดดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ร่วงลงอย่างหนักจนทำให้ต้องใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาทีเมื่อคืนนี้

         เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้างอย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 90 ต่อ 8 เสียง อนุมัติร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีชื่อว่า "Families First Coronavirus Response Act" โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 กับประชาชนสหรัฐโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างที่ลาป่วยจากการติดเชื้อ

            โดยคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามเพื่อบังคับใช้กฎหมายในไม่ช้านี้ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถดำเนินมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ก่อนหน้านี้  

             ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 201,436 ราย และมีผู้เสียชีวิต 8,007 ราย ส่วนในสหรัฐนั้น มีผู้ติดเชื้อ 6,496 ราย และเสียชีวิต 114 รายหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างหนัก

             โดยหุ้นเชฟรอน ทรุดตัวลง 22.14% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 10.02% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 24.92% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 13.5% หุ้นอาปาเช คอร์ป ลดลง 0.22% หุ้นมาราธอน ออยล์ ร่วงลง 4.5% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ดิ่งลงกว่า 13%