อิตาลีวิปโยควันเดียว368ศพ'มาเลย์'ถกด่วนจ่อล็อกดาวน์ปท. | คมชัดลึก

 

               สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังลุกลามไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการในยุโรปถือว่าหนักหนาสาหัส ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโควิด-19 ว่ามีผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดเพิ่มขึ้น 368 ราย คิดเป็น 25% ถือเป็นการเสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในวันเดียวของอิตาลี และทำให้สถิติผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,809 ราย

อ่านข่าว-อิตาลีช็อกข้ามคืนโควิดคร่า250ศพ

 

 

 

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอิตาลีเป็นประเทศที่มีสัดส่วนพลเมืองสูงวัยมากที่สุดในทวีปยุโรป โดยเกือบ 25% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 60.5 ล้านคน มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

              นอกจากนี้ภายในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ได้รับการยืนยันในอิตาลี มีจำนวน 3,590 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมจากโควิด-19 ในอิตาลีมีจำนวน 24,747 คน โดยพื้นที่วิกฤติที่สุดยังคงเป็นแคว้นลอมบาร์เดีย ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีเมืองมิลานเป็นเมืองเอก

เยอรมนีปิดพรมแดน 5 ประเทศ

              ส่วนที่ประเทศเยอรมนีทางการประกาศปิดพรมแดนติดต่อกับ 5 ประเทศเป็นการชั่วคราวเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย 5 ประเทศ ได้แก่ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย เดนมาร์ก และลักเซมเบิร์ก ซึ่งมาตรการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม

              ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของรัฐบาลเยอรมนีมีขึ้นหลังจากหลายประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) ดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเช่นกรณีของออสเตรียที่ออกกฎห้ามชุมนุมมากกว่า 5 คนขึ้นไปตั้งแต่วันจันทร์ ส่วนสาธารณรัฐไอร์แลนด์สั่งปิดผับไปจนถึงวันที่ 29 มีนาคม ส่วนเนเธอร์แลนด์สั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ

ฝรั่งเศส-สเปนล็อกดาวน์ประเทศ

              ด้านรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศมาตรการชัตดาวน์ ด้วยการสั่งปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงหนัง สถานบันเทิงและสถานประกอบธุรกิจต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ยกเว้นร้านขายอาหาร อุปกรณ์เคมี บุหรี่ ปั๊มน้ำมันและธนาคาร พร้อมทั้งขอให้ประชาชนลดการเดินทางระหว่างเมืองเพื่อพยายามควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังสถานการณ์ทวีความรุนแรงและทำให้มีผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสแล้ว 4,500 คน และเสียชีวิต 91 คน

              ขณะที่สเปนใช้มาตรการล็อกดาวน์เกือบทั่วทั้งประเทศตั้งแต่วันเสาร์เช่นกัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของคำประกาศภาวะฉุกเฉินนาน 15 วัน โดยห้ามประชาชน 47 ล้านคนออกนอกบ้าน ยกเว้นเพื่อไปทำงาน พบแพทย์ หรือซื้ออาหาร เมื่อวันอาทิตย์สเปนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 2,000 คน ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 7,753 รายแล้ว หนึ่งในนี้คือนางเบโกนา โกเมซ ภริยานายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ

“โบสถ์คริสต์”ใกล้โซลแหล่งแพร่ชื้อ

              วันเดียวกันสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าโบสถ์คริสต์ใกล้กรุงโซลกลายเป็นแหล่งแพร่ไวรัสโคโรนาแห่งใหม่ในเกาหลีใต้ โดยพบผู้ติดเชื้อแล้วไม่ต่ำกว่า 46 รายหลังไม่ยอมงดทำกิจกรรมทางศาสนาตามที่ภาครัฐเรียกร้อง โดยโบสถ์ชุมชนริเวอร์ออฟเกรซ ตั้งอยู่ที่เมืองซองนัม ทางตอนใต้ของกรุงโซล ตัดสินใจปิดทำการชั่วคราวแล้วเมื่อวันที่ 15 มีนาคม หลังพบว่าสมาชิกโบสถ์ราว 1 ใน 3 จากทั้งหมด 135 คนมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก

              มีรายงานว่าโบสถ์แห่งนี้ยังคงประกอบพิธีสวดมนต์ตามปกติทั้งที่รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนงดจัดกิจกรรมที่ต้องรวมคนหมู่มาก รวมถึงกิจกรรมทางศาสนาเพื่อสกัดการแพร่กระจายของไวรัสซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 8,200 คนทั่วประเทศ โดยทางการเมืองซองนัมยืนยันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เชื่อมโยงกับโบสถ์ริเวอร์ออฟเกรซเพิ่มขึ้นอีก 40 ราย จากเดิมที่พบเพียง 6 ราย

              ขณะที่โบสถ์คริสต์ชินชอนจี ในเมืองแทกู ก็เป็นจุดแพร่กระจายไวรัสจนทำให้สถานการณ์การระบาดในเกาหลีใต้เลวร้ายลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพราะผู้ติดเชื้อกว่าครึ่งในเกาหลีใต้มีส่วนเชื่อมโยงกับโบสถ์แห่งนี้ ซึ่งเริ่มต้นมาจากสมาชิกหญิงรายหนึ่งที่ไปร่วมพิธีสวดมนต์ในโบสถ์ถึง 4 ครั้ง ก่อนที่แพทย์จะยืนยันว่าติดเชื้อ

              ทั้งนี้เกาหลีใต้เป็นประเทศแรกของโลกที่พบผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุดรองจากจีนแผ่นดินใหญ่และจนถึงวันนี้ก็ยังคงมีผู้ติดเชื้อสะสมติดอันดับต้นๆ แม้จะถูกแซงหน้าโดย ‘อิตาลี’ และ ‘อิหร่าน’ แล้วก็ตาม

“หลุยส์ วิตตอง"ผลิตเจลล้างมือช่วย

              ขณะเดียวกันมีรายงานว่า “หลุยส์ วิตตอง” แบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลก ประกาศว่าโรงงานผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางในเครือของบริษัทอย่าง คริสเตียน ดิออร์ และจีวองชี่ จะเริ่มดำเนินการผลิตเจลล้างมือตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปเพื่อช่วยสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยแถลงการณ์ของ หลุยส์ วิตตอง ระบุว่า บริษัทจะนำเจลล้างมือที่ผลิตจากโรงงานเหล่านี้ไปมอบให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลฝรั่งเศสและเครือข่ายโรงพยาบาล Assistance Publique-Hopitaux de Paris ซึ่งหลุยส์ วิตตอง มุ่งมั่นที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะผลิตภัณฑ์ขาดตลาด และช่วยให้ผู้คนจำนวนมากได้มีอุปกรณ์สำหรับป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

 

 

 

 

ยอดตายทั่วโลกทะลุ 6,000

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงเช้าวันที่ 16 มีนาคม พุ่งสูงทะลุ 6,484 รายแล้ว โดยที่ยุโรปพบการเพิ่มขึ้นของผู้เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยอิตาลีมีการเพิ่มขึ้นของผู้เสียชีวิตในหนึ่งวันสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 368 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมในอิตาลีสูงถึง 1,809 คน ส่วนที่สเปนมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 97 ราย ทำให้ยอดรวม 289 ฝรั่งเศสมีรายงานเสียชีวิต 29 ราย ยอดรวม 120 คน ที่อังกฤษมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 14 ราย ยอดรวม 35 ราย

              ทั้งนี้ในจำนวนผู้เสียชีวิต 6,484 รายทั่วโลก มากที่สุดรองจากจีนคืออิตาลีที่ 1,809 คน อิหร่าน 724 สเปน 289 ฝรั่งเศส 120 ส่วนประเทศที่พบการเสียชีวิตมากกว่าสิบคนประกอบด้วย เกาหลีใต้ 75 สหรัฐ 63 ญี่ปุ่น 22 อังกฤษ 35 เนเธอร์แลนด์ 20 สวิตเซอร์แลนด์ 14 เยอรมนี และฟิลิปปินส์ที่ละ 11 และอิรัก 10

              ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 167,444 คน โดยพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดนอกจีนที่อิตาลี 24,747 อิหร่าน 13,938 ส่วนที่มีผู้ติดเชื้อเกินพันคนคือเกาหลีใต้ 8,162 สเปน 7,798 เยอรมนี 5,795 ฝรั่งเศส 4,513 สหรัฐ 3,499 เนเธอร์แลนด์ 2,271 สวิตเซอร์แลนด์ 2,200 นอร์เวย์ 1,221 อังกฤษ 1,144 และสวีเดน 1,022 ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อซึ่งหายจากอาการป่วยแล้วอยู่ที่ 76,038 คน

จีนข้องใจมะกันต้นตอแพร่

              วันเดียวกัน นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เขียนในทวิตเตอร์ว่า “โรเบิร์ต เรดฟีลด์ (Robert Redfield) ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ยอมรับในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ว่าหลังจากชันสูตรศพชาวอเมริกันบางรายที่เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ พบว่ามีผลทดสอบเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก”

              “การที่ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหลุดเรื่องนี้ออกมาเอง สรุปแล้วผู้ติดเชื้อรายแรกปรากฏในอเมริกาตั้งแต่เมื่อใด มีผู้ป่วยติดเชื้อกี่ราย โรงพยาบาลชื่ออะไร กองทัพอเมริกาอาจเป็นผู้นำเชื้อมายังอู่ฮั่นก็เป็นได้ อเมริกาต้องโปร่งใส! เปิดเผยข้อมูล! อเมริกาติดค้างคำอธิบายต่อเรา” โฆษกต่างประเทศจีนกล่าว

มะกันแห่กักตุนอาหาร-สินค้า

              ขณะเดียวกันมีรายงานว่าชาวอเมริกันแสดงอาการตื่นตระหนกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยบรรดาสินค้าอาหารและเครื่องใช้จำเป็นได้ถูกซื้อไปเกือบหมดชั้นวางในห้างสรรพสินค้าของสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง ซึ่งสถานการณ์ความตื่นตระหนกดังกล่าวส่งผลให้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต้องออกมาแถลงเตือนประชาชนว่าไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกซื้อของมากจนเกินไป และยืนยันว่าสินค้าไม่ได้มีการขาดตลาดแต่อย่างใด แต่ภาพที่ออกมานั้นเนื่องจากประชาชนซื้อของมากกว่าปกติถึง 3-5 เท่าตัว

              ด้านนายไมคเพนซ์ ระบุว่า สินค้าในห่วงโซ่อุปทานในประเทศนั้นยังคงเป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประธานาธิบดีสหรัฐอย่างลาร์รี คุดโลว์ ระบุว่า ห่วงโซอุปทานยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะสามารถอยู่บ้านได้โดยมีอาหารอย่างเพียงพอ

มาเลย์ถกด่วนเคาะปิดประเทศ

              วันเดียวกัน สำนักข่าวมาเลเซียรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียแถลงพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในมาเลเซียเพิ่มขึ้นถึง 190 ราย ภายในวันเดียว ทำให้จำนวนผู้ป่วยในมาเลเซียพุ่งไปอยู่ที่ 428 รายแล้ว ในจำนวนนี้ 9 รายอยู่ในอาการสาหัส โดยทางการได้เรียกประชุมด่วนเพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ถึงการปิดประเทศ

สถานกงสุลใหญ่ไทยในนิวยอร์กปิด

              มีรายงานว่าสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกประกาศว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในนครนิวยอร์กเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลสหรัฐในการป้องกันการแพร่ระบาด ทางสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์ก จึงจะปิดทำการตั้งแต่วันที่ 16-30 มีนาคมนี้ โดยจะไม่รับคำร้องการตรวจลงตรา งานนิติกร งานหนังสือเดินทาง และงานทะเบียนราษฎร ทั้งในที่ทำการและทางไปรษณีย์ หากมีเหตุเร่งด่วนเกี่ยวกับการบริการกงสุล ขอให้ติดต่อโทรศัพท์สายด่วนเพื่อคนไทย (646) 842-0864