เด็กป่วยโรคโควิด-19 น้อยแต่แพร่เชื้อได้-ข้อดีข้อเสียปิดรร.

 

                               สถานการณ์โรคโควิด-19 ในเวลานี้ มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 1.4 แสนคน ใน 124 ประเทศทั่วโลก เสียชีวิตกว่า 5 พันคน แต่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าจำนวนติดเชื้อที่แท้จริง สูงกว่านี้ เนื่องจากมีอีกมากอาการไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการ ส่วนหนึ่งในกลุ่มนี้ก็คือเด็ก   

 

 

                               จัสติน เลสเลอร์ นักระบาด บลูมเบิร์ก สกูล ออฟ พับลิก เฮลท์ จอห์นส ฮอปสกินส์ กล่าวว่า เรารู้ว่า เด็กติดเชื้อไวรัส แต่พวกเขาไม่ป่วยมากหรือตาย “สิ่งที่เราไม่รู้ก็คือเด็กที่ไม่แสดงอาการหรืออาการน้อยๆ แพร่เชื้อได้มากแค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญในการทำความเข้าใจบทบาทของเด็กในสถานการณ์ระบาด”

                               ผลศึกษาผู้ติดเชื้อ 4.4 หมื่นคน  ในและใกล้เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดในจีน  ช่วงกลางเดือนก.พ. พบว่า ผู้ติดเชื้ออายุ 10-19 ปี มีสัดส่วนแค่ 1%  เสียชีวิตคนเดียว  ผู้ติดเชื้ออายุน้อยกว่า 10 ปี มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ไม่มีผู้เสียชีวิต 

                               มีหลายทฤษฎีที่ว่าเหตุใด เยาวชนโดยเฉพาะเด็กเล็ก น้อยรายจะมีอาการรุนแรง  เช่น ความเห็นของดร. ชารอน นาชแมน หัวหน้าแผนกโรคติดเชื้อในเด็ก โรงพยาบาลเด็กสโตนนี บรูค ในรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า ในช่วงปีแรกๆหลังลืมตาดูโลก เด็กเจอกับอาการป่วยมากมาย ระบบภูมิคุ้มกันเปิดทำงานและตอบสนองต่อการติดเชื้อใหม่ๆได้ดี   

 

 

 

                               แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไร  ดร. เซซิล วีบาวด์ นักระบาดวิทยา ศูนย์ระหว่างประเทศโฟการ์ตี สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า การที่เด็กค่อนข้างต้านไวรัสได้แต่ยังแพร่เชื้อ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับแนวคิดปิดโรงเรียน

 

                               ข้อมูลจากยูเนสโก ระบุว่าจนถึงขณะนี้มีอย่างน้อย 29 ประเทศ รวมถึงไอร์แลนด์ จีน อิตาลี โปแลนด์ และญี่ปุ่นที่ระงับการเรียนการสอนทั่วประเทศ กระทบเด็กเกือบ 400 ล้านคน  อีกราว 20 ประเทศใช้มาตรการปิดการเรียนการสอนบางส่วน 

 

                               มีผู้เชี่ยวชาญบางคนแย้งว่าการกันเด็กออกจากห้องเรียน และให้อยู่บ้าน อาจเสี่ยงกับผู้สูงอายุในบ้าน สุดท้ายอาจส่งผลไปถึงความสามารถในการบริหารผลที่ตามมา  เช่น จำนวนคนป่วยอาจจะลดลง แต่จำนวนปู่ย่าตายายที่ดูแลหลานป่วยมากขึ้นแทน และคนกลุ่มนี้คือเสี่ยงยิ่งกว่า 

 

 

 

                               กระนั้นส่วนใหญ่ยังสนับสนุนแนวคิดปิดโรงเรียนเพื่อชะลอการแพร่กระจายเชื้อ

 

                               หากตั้งสมมติฐานว่าพวกเด็กๆติดเชื้อ แล้วส่งต่อให้กับพ่อแม่และคนในบ้าน อย่างน้อยก็ยังจะยืดเวลาให้กับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอาการหนักออกไปได้  เช่น แทนที่จะทำให้ 100 คนป่วยในวันพรุ่งนี้  รพ.อาจจะรับคนป่วยแค่ 10 คนแทนในอีก 10 วันข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าจะมีคนป่วยไปรพ.น้อยลงในคราวเดียว เพื่อไม่ให้ห้องไอซียูมีผู้ป่วยล้นรพ.อย่างที่เกิดในอู่ฮั่นและอิตาลี